วิกฤติ PM 2.5 สาเหตุเกิดจากหลายปัจจัย อุตสาหกรรมรถยนต์หันไปหารถไฟฟ้าเพื่อลดมลภาวะ
“อนุพล ลิขิตพฤกษ์ไพศาล” CEO เบนซ์ บีเคเค กล่าวในรายการ”ลับคมธุรกิจ” ทางคลื่นมิติข่าว 90.5 ถึงวิกฤติฝุ่นละออง หรือ PM 2.5 ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ว่า การเกิดฝุ่นละอองในภูมิภาคต่างๆ ของโลก มาจากหลายสาเหตุ ทั้งจากภัยธรรมชาติ ไฟไหม้ป่า การเผาหญ้าโดยเจตนาของเกษตรกรผู้ด้อยโอกาสในประเทศเพื่อนบ้าน
ฝุ่นที่เกิดจากมลภาวะอุตสาหกรรม ฝุ่นที่เกิดจากรถยนต์ที่วิ่งบนท้องถนน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมตัวแก้ไขในอนาคต ทั้งนี้ เดิมก็มีฝุ่นในปริมาณน้อยๆ อยู่แล้ว แต่จู่ๆ ก็เกิดในปริมาณที่มากขึ้น ประกอบกับยุคนี้เป็นยุคของโซเชียล มีเดีย เพราะฉะนั้น ต้นทางในการรับสื่อของแต่ละคนก็มีคุณภาพที่แตกต่างกันออกไป อาจบอกว่าสาเหตุเกิดจากรถบนท้องถนน หรือมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทุกประเด็นก็มีมูลทั้งหมด
CEO เบนซ์ บีเคเค กล่าวต่อว่า ในมุมมองของตนเองที่มองจากอุตสาหกรรมรถยนต์ พบว่าเรื่องนี้คือต้นเหตุที่ทำให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมรถยนต์ จนกลายเป็นรถไฟฟ้า หรือ EV (Electric Vehicle) ซึ่งปัจจุบันเครื่องยนต์ของรถยนต์ได้พัฒนามาเป็นยูโร 7 แล้ว ในต่างประเทศที่จะเติมน้ำมันได้ ต้องเป็นยูโร 6 หรือ ยูโร 7
แต่ในประเทศไทยยังอยู่ที่ยูโร 5 ดังนั้น ในต่างประเทศจึงพยายามหนีไปที่รถไฟฟ้า เพราะถ้าไปถึงยูโร 10 ก็ไม่มีน้ำมันให้เติมแล้ว อีกทั้งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ค่ายรถยนต์ใหญ่ๆ ในยุโรปเกิดปัญหาเกือบล้มละลาย เพราะถูกตรวจสอบจากหน่วยงานอิสระเรื่องการปล่อยมลภาวะอย่างเข้มงวด เขาก็เลยต้องหนีไปที่รถไฟฟ้า ซึ่งสิ้นปีนี้จะปล่อยออกมาวิ่งบนถนนทั่วโลกกันทุกค่ายแล้ว
CEO เบนซ์ บีเคเค กล่าวต่อว่า เรื่องฝุ่นละอองเท่าที่ติดตามพบว่าทุกอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการก็มีกฎระเบียบในการปฏิบัติเพื่อควบคุมในเรื่องพวกนี้มากขึ้น แต่พวกที่อยู่นอกกรอบ นอกระเบียบก็มีอยู่แล้ว ซึ่งเราก็ต้องสนับสนุนคนดีให้มีกำลังใจทำดีต่อไป ทั้งนี้ รัฐได้ออกกฎระเบียบต่างๆ ในการปฏิบัติ รวมทั้งมีบทลงโทษ ซึ่งพบว่าคนส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เช่น การจอดรถในห้างสรรพสินค้าก็ต้องดับเครื่อง และรัฐก็ได้ประชาสัมพันธ์ในเรื่องต่างๆ เหล่านี้ในระดับหนึ่ง ซึ่งคนในสังคมก็ต้องช่วยกันสั่งสอน อบรม และปลูกฝังบุตรหลาน ในเรื่องเหล่านี้
CEO เบนซ์ บีเคเค กล่าวด้วยว่า เมื่อมีข่าวเรื่องวิกฤติฝุ่นละออง ก็เป็นการกระตุ้นคนในสังคมให้ช่วยกันลดสาเหตุที่ทำให้เกิดฝุ่นละออง กระตุ้นให้คนดูแลป้องกันสุขภาพตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งเรื่องแบบนี้ควรจะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกแคมเปญรณรงค์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการเตือนไม่ให้คนหลงลืมในเวลาที่วิกฤติฝุ่นละอองผ่านพ้นไปแล้ว และในส่วนของโมเดลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ตอนนี้มีเทรนด์ Car Sharing ซึ่งมีรายงานการศึกษาในปีที่แล้วว่า คนรุ่นใหม่จะถือครองรถยนต์น้อยลง และหันไปใช้บริการอูเบอร์มากขึ้น ขณะที่ในบางประเทศ เกิดกระแสคนที่ชอบคุยในเรื่องเดียวกัน นั่งรถไปคันเดียวกัน โดยสามารถเลือกผู้นั่งได้ ซึ่งมียอดผู้ใช้บริการมากมายในฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ตนเองคิดว่า ระบบรางจะเป็นตัวตอบโจทย์ทั้งหมด เพราะลดปัญหารถติด และจะทำให้คนผ่อนคลายมากที่สุดในเรื่องของเวลาในการเดินทาง @@@