“xCash” คืนเงินในทุกการใช้จ่ายให้แก่ผู้บริโภค สามารถโอนแต้มสะสมจากบัตรเครดิตมาใช้ได้ เป็นจิ๊กซอว์ในการ Transfer เมืองไทยไปสู่ Cashless Society
อีกหนึ่งดิจิทัลแพลตฟอร์มที่เปิดตัวไปได้ไม่นาน คือ แอปพลิเคชัน xCash ที่ให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการ “นนทิ ศัพทเสวี” ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท ดิจิต้าไลฟ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวในรายการ “ลับคมธุรกิจ” ทางคลื่นมิติข่าว 90.5 ว่า xCash เป็นแอปพลิเคชันที่เหมือนทำให้ผู้บริโภคมีเงินออมกลับคืนมาจากการใช้จ่าย เมื่อผู้บริโภคดาวน์โหลดแอป xCash จากแอนดรอยด์ และ iOS ได้ที่ App store และ Play store เมื่อไปซื้อของในร้านพันธมิตรของเรา ก็เปิดแอป สแกนคิวอาร์โค้ด ก็จะได้รับเงินออมคืนกลับมา x% ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้ากำหนดโดย xCash จะต่างจาก e-Wallet ที่มีหลักการคือเราต้องเอาเงินไปฝากไว้ในกระเป๋า e-Wallet และเอาไปใช้โดยใช้เงินสดผ่านเข้าไปใน e-Wallet แต่ xCash จะใช้แต้ม
ซึ่งลูกค้าจะได้แต้มมาจาก 3 ช่องทาง คือ 1.ทุกคนที่มีบัตรเครดิต และมีแต้มสะสม xCash จะเชื่อมต่อกับบัตรเครดิตเหล่านี้ และลูกค้าสามารถโอนแต้มสะสมที่ไม่ได้ใช้ เข้ามาเป็น xCash ได้ และสามารถนำ xCash ไปจับจ่ายใช้สอยในร้านพันธมิตรได้ โดย 1 xCash มีมูลค่าเท่ากับ 1 บาท2.ทุกๆ การใช้จ่ายด้วยเงินสด บัตรเครดิต หรือพร้อมเพย์ แค่เปิดแอป สแกนคิวอาร์โค้ด ก็จะได้ x% กลับเข้าไปใน xCash
ข้อดีคือเมื่อเราจ่ายด้วยบัตรเครดิต เราจะได้ประโยชน์ทั้งจากบัตรเครดิต และเมื่อสแกน xCash ก็จะได้ประโยชน์จาก xCash อีก ซึ่ง xCash จะไม่มีวันหมดอายุ 3.ลูกค้าสามารถโอน xCash ให้กันได้ และโอนให้การกุศลได้ ซึ่งในแอปจะมีลิงก์กับมูลนิธิต่างๆ
สำหรับผู้ที่ดาวน์โหลดแอป xCash และลงทะเบียนตอนนี้ จะมีโปรโมชั่นได้รับฟรี 30xCash และในแอปเอง ก็มี Voucher ให้ลูกค้าเอาแต้มไปแลก เช่น ตั๋วหนังเมเจอร์, Voucher สตาร์บัคส์, Voucher S&P นอกจากนี้ ทุกๆ การใช้จ่ายบนแอป จะมีการลุ้นจับรางวัลรับแต้มเงินเพิ่มรวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาท ซึ่งโปรโมชั่นนี้จะมีไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งเราจะทำโปรโมชั่นนี้ต่อแน่นอน
ร้านค้าได้เพิ่มยอดขาย ช่องทางโปรโมท รวมทั้งได้ Data Analytics
“นนทิ” กล่าวว่า ข้อดีอีกอย่างของ xCash คือลูกค้าสามารถเพิ่มข้อมูลบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิตลงไปในแอปได้ ดังนั้น ต่อไปเราก็ไม่ต้องพกบัตรเครดิตจริงๆ แค่เปิดแอปแล้วสแกนเลือกจ่ายบัตรเครดิตได้เลย และเป็นครั้งแรกที่ใช้บัตรเดบิตแล้วได้แต้มสะสมเหมือนบัตรเครดิต
ซึ่งในตลาดเมืองไทย มีการแจกพอยท์ หรือแต้มสะสม 6-7 หมื่นล้านพอยท์ คิดเป็นเงิน 6-7 ร้อยล้านบาท เพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถทำให้เงิน 6-7 ร้อยล้านบาท เข้ามาในระบบการซื้อขายสินค้า ทำให้ร้านค้ามีเงินไหลเข้ามา เศรษฐกิจก็ดีขึ้น
สำหรับการโอนพอยท์จากแต่ละที่เข้ามาใน xCash จะมีอัตราแลกเปลี่ยนที่เราตกลงกันไว้เป็นมาตรฐานเฉลี่ย 1,000 แต้มบัตร เท่ากับ 100xCash หรือ 100 บาท ขณะนี้มีเครือข่ายร้านค้าที่ร่วมกับ xCash เป็นแบรนด์ทั้งหมด 300 แบรนด์ ประมาณ 900 สาขา และสิ้นปีนี้ตั้งเป้าไว้ 2,000 แบรนด์เพื่อพยายามตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนเมือง
ในส่วนของร้านค้าต่างๆ ที่จะได้ประโยชน์จาก xCash ก็คือ 1.เพิ่มยอดขาย เพราะในแอปจะมี Nearby ให้ดูว่าบริเวณรอบๆ ตัวคุณ มีร้านไหนที่รับ xCash บ้าง 2.ในแอป เราจะมีตัวแบนเนอร์ มีข้อมูลร้านค้าให้ลูกค้าเห็น 3.เรามีเว็บไซต์ โซเชียลมีเดียต่างๆ ช่วยโปรโมท 4.เรามีข้อมูล Data Analytics ร้านค้าที่ร่วมกับเรา เราแชร์ข้อมูลได้ว่าลูกค้าที่เข้าไปในร้านมีพฤติกรรมการบริโภคอย่างไร เพื่อให้เขานำไปพัฒนาสินค้าและบริการ
ซึ่งร้านค้าสามารถเปิดดูข้อมูลได้ทุกวันสำหรับร้านค้าที่ต้องการร่วมงานกับเรา ก็สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น xCash Shop แล้วลงทะเบียนออนไลน์ได้เลย หรือเข้าไปเสิร์ชหาในเฟสบุ๊ก หรือเข้าไปที่ www.xcashrewards.com ติดต่อทีมงานได้เลย
xCash เป็นจิ๊กซอว์ในการ Transfer เมืองไทยไปสู่ Cashless Society
ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท ดิจิต้าไลฟ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บอกด้วยว่า ตอนนี้วางแผนที่จะขยายไปยังต่างประเทศ มีดีลกับพาร์ตเนอร์ในต่างประเทศ เช่น ในจีน เพราะคนจีนก็มีพอยท์สะสมเยอะ ถ้าเขาสามารถโอนพอยท์มาใช้ในไทยผ่านระบบ xCash เพื่อเอามาใช้ในเมืองไทยได้
นอกจากนี้ คนจีนเขาจ่ายเงินโดยระบบ Cashless หมดแล้ว ซึ่งภายในไตรมาส 3 ร้านค้าทั้งหมดที่เป็นพันธมิตรของเรา ก็จะรับ Alipay, WeChat Pay ผ่าน xCash ได้ทั้งนี้ xCash เริ่มขึ้นในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว และเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อสิ้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตอนนี้มียอดดาวน์โหลดเกือบแสนรายแล้ว
และสิ้นปีนี้ เราตั้งเป้ายอดดาวน์โหลดไว้อยู่ที่ 7 แสนราย คิดว่าจะมีคนใช้งาน ทุกๆ เดือน 2-2.5 แสนราย ร้านค้าสิ้นปีน่าจะอยู่ที่ 2,000 แบรนด์ เงินในระบบของสินค้าที่จะผ่าน xCash อยู่ที่ 250 ล้านบาทในปีนี้
ขณะนี้เมืองไทยอยู่ระหว่าง Transfer ไปสู่ Cashless Society ซึ่ง xCash เป็นตัวกลาง เป็นจิ๊กซอว์ในการที่จะเปลี่ยนทุกคนจากโลกออฟไลน์ มาเป็น Cashless Society คิดว่าภายใน 3-5 ปี เราคงเห็นคนไทยปรับเปลี่ยนไปทางนั้น
ภาพ : facebook.com/xCashrewards