เปิดโมเดล “ทรูลี่ฮิลล์ คอฟฟี่” ทำธุรกิจควบคู่ดูแลชุมชน “อมก๋อย”

 

จากความตั้งใจที่จะช่วยเหลือสังคมด้วยการเดินทางขึ้นไปบนดอยอมก๋อย จ.เชียงใหม่ เพื่อสร้างโรงเรียนให้กับเด็กๆ บนดอยตาม”โครงการคืนรอยยิ้มสู่ถิ่นไกล” หลังการเดินทางอย่างยากลำบาก ฤดีรินทร์ กิจทวีปวัฒนา กรรมการผู้จัดการแบรนด์กาแฟทรูลี่ฮิลล์ คอฟฟี่ และสุดสงวน ห่านวิไล ประธานที่ปรึกษาโครงการคืนรอยยิ้มสู่ถิ่นไกล ก็พบว่าสภาพอาคารเรียนที่นักเรียนเรียนอยู่นั้นไม่ต่างจากเล้าไก่ หลังคาเตี้ยๆ เวลาร้อนก็ร้อนมาก เวลาหนาวก็หนาวมาก กันฝนก็ไม่ค่อยได้ ซึ่งเป้าหมายที่จะสร้างโรงเรียนคือ 99 แห่ง ผ่านไป 9 ปี สร้างโรงเรียนไปแล้ว 33 แห่ง และวันที่ 5 ธันวาคม 2562 จะเปิดโรงเรียนอีก 6 แห่ง ซึ่งในช่วงหลังจะมีพันธมิตรมาร่วมสร้างโรงเรียนด้วย นอกจากจะสร้างโรงเรียนให้แล้ว ยังมีการให้ทุนการศึกษากับน้องๆ ตอนนี้มีนักเรียนทุน 10 คนที่จะต้องส่งจนเรียนจบมหาวิทยาลัย ล่าสุดก็มีน้องที่สอบติดคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เขาจะได้กลับไปพัฒนาบ้านเกิดจะได้ไม่ทิ้งดอย ไม่ทิ้งบ้านเกิด

หลังจากสร้างโรงเรียนให้แล้ว ฤดีรินทร์และสุดสงวนก็คิดว่า ควรจะต้องให้อาชีพเขาด้วย โดยมองว่าบนดอยทั้งสูง ทั้งหนาว และต้นไม้ใหญ่ถูกตัด จึงคิดว่าจะให้น้องๆ ปลูกกาแฟ เพราะกาแฟจะช่วยรักษาป่า เนื่องจากได้ศึกษามาพบว่ากาแฟจะให้ผลดี สวยงาม เมล็ดใหญ่ จะต้องปลูกใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ จึงพาทีมงานที่เป็นเครือข่ายไปช่วยน้องๆ รณรงค์ในการปลูกกาแฟ โดยปลูกตามศาสตร์พระราชา คือพยายามให้เขาใช้สารเคมีน้อยที่สุด ปลูกอย่างพออยู่พอกินพอใช้ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งเป็นกุศโลบายที่จะไม่ให้มีการตัดป่า เพราะกาแฟจะต้องอยู่ใต้ต้นไม่ใหญ่มีแดดรำไร ถือเป็นกุศโลบายให้เขารักษาป่าด้วย

ฤดีรินทร์ กิจทวีปวัฒนา กรรมการผู้จัดการแบรนด์กาแฟทรูลี่ฮิลล์ คอฟฟี่ และสุดสงวน ห่านวิไล ประธานที่ปรึกษาโครงการคืนรอยยิ้มสู่ถิ่นไกล

ฤดีรินทร์และสุดสงวน ยังกล่าวถึง”อมก๋อยโมเดล”ที่เป็นกาแฟขั้นบั้นไดที่แรกของประเทศไทย โดยในพื้นที่ 1 ไร่ จะมีการคิดคำนวณว่าจำนวนต้นจะปลูกได้กี่ต้น โดยจะให้ปลูกพืช 4 พี่น้อง มีกาแฟเป็นพี่ อีกส่วนหนึ่งจะเป็นพืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วเหลืองที่ใช้เวลาแค่ 3 เดือน ชาวบ้านก็เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ทำให้มีรายได้ เพราะกาแฟต้องใช้เวลา 3 ปีถึงจะเก็บเกี่ยวได้

นอกจากนี้ก็มีหญ้าหวาน และแมคคาเดเมีย โดยแมคคาเดเมียเป็นพืชยืนต้น เป็นพี่ใหญ่ที่จะให้ร่มเงากาแฟให้เม็ดใหญ่ ส่วนข้างล่างเป็นหญ้าหวาน และพืชตระกูลถั่ว ก็เป็นโมเดลที่เรารณรงค์อยู่ เผื่อในอนาคตใครๆ ก็สามารถยกโมเดลนี้ไปทำได้ โดยอาจไปปลูกที่แม่ฮ่องสอน หรือที่อื่นที่มีภูมิประเทศเหมือนๆ กัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อชาวดอยต่อไป

สำหรับการปลูกกาแฟที่ไปส่งเสริมบนดอยอมก๋อย ฤดีรินทร์กล่าวว่า จะให้นักเรียนชั้น ป.3 ปลูกกาแฟในบริเวณโรงเรียน พอถึงชั้น ป.6 เขาก็เริ่มเก็บเกี่ยวได้ ถือเป็นเป็นรายได้ของเขา ซึ่งเราจะรับซื้อผลผลิตทั้งหมดเลย ที่ผ่านมาเขาอาจปลูกพืชบางอย่าง เช่น มะเขือเทศ กะหล่ำปลี ซึ่งอาจได้ราคาน้อย แต่กาแฟจะให้ราคาดีกว่ามาก

ขณะที่สุดสงวน กล่าวว่า ได้แจกกล้าพันธุ์กาแฟอย่างดี 5,000 ต้นทั้งดอย หลังจากนั้นเด็กนักเรียนทุกคนจะมีรายได้ตกครอบครัวละ 4,500 บาท ซึ่งการส่งเสริมให้เขามีรายได้ ก็ทำให้การทำไร่เลื่อนลอยลดลง และหลายพื้นที่ตอนนี้เขียวชอุ่มแล้ว ต่างจากสมัย 8-9 ปีที่แล้ว ที่เป็นเขาหัวโล้น และร้อนมาก

 รายได้จากการขายกาแฟทรูลี่ฮิลล์ ส่วนหนึ่งจะแบ่งไปให้น้องๆ บนดอย ทั้งการสร้างโรงเรียน การพัฒนาพันธุ์กาแฟ หรือสนับสนุนไร่โมเดลทรูลี่ฮิลล์ เพราะใช้เงินเยอะพอสมควร โมเดลหนึ่งใช้เงินหลายแสนบาท โดยหากซื้อกาแฟ 1 กล่อง 10 ซอง ราคา 130 บาท ก็จะมีส่วนช่วยเหลือน้องๆ บนดอย ตามโครงการคืนรอยยิ้มสู่ถิ่นไกล อย่างน้อย 10 บาท

สำหรับกาแฟทรูลี่ฮิลล์เป็นกาแฟคั่วบด มีหลายสูตร ทั้งรีอินวัน ซึ่งจะไม่ใช้น้ำตาลแต่ใช้หญ้าหวานแทน และใช้ครีมถั่ว 3 ชนิดแทนไขมัน ส่วนกาแฟอเมริกาโน่ รสชาติจากเมล็ดกาแฟเอง เพราะปลูกบนพื้นที่สูงถึง 1,000 เมตร ส่วนลูกค้าที่ไม่ดื่มกาแฟ ตอนนี้เริ่มรณรงค์ให้เริ่มปลูกโกโก้ที่อมก๋อยแล้ว ซึ่งโกโก้จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง รวมทั้งรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้

กาแฟทรูลี่ฮิลล์ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดกาแฟพันธุ์อาราบิกา 2 ปี มีจำหน่าย 100 กว่าสาขา ตามร้านตำรับไทย ภูมิใจไทย สบายใจ นอกจากนี้ยังมีตัวแทนจำหน่าย หรือ ซื้อผ่านไลน์ที่ @Trulyhillcoffee หรือ เฟสบุ๊ก Trulyhillcoffee

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *