ผู้ประกอบการมือใหม่ที่คิดจะเริ่มต้นธุรกิจ คงต้องมีการวางแผนเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ โดยเฉพาะความพร้อมทางด้านการเงิน แต่ความจริงแล้วสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคนที่จะเริ่มต้นธุรกิจ ที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตได้ ไม่ใช่เรื่องเงิน
มงคล ลีลาธรรม อดีต CEO SME Development Bank กล่าวว่า มีการทำวิจัยจากทั่วโลก พบว่าการที่จะเป็นผู้ประกอบการนั้น ตัวที่เป็นทรัพย์สินที่จะขับเคลื่อนธุรกิจไปได้ก็คือตัวเราเอง ซึ่งในยุคนี้โอกาสที่จะทำธุรกิจสามารถทำได้ง่ายกว่าสมัยก่อน เนื่องจากมีเทคโนโลยีใหม่ๆ บางคนยังเรียนไม่จบก็มีธุรกิจแล้ว ส่วนใหญ่การทำธุรกิจคือการแปรรูป การสร้างมูลค่าเพิ่ม
หลายคนที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจต้องเข้าใจก่อนว่าตัวเราต้องการอะไร ถ้าใครอยากใช้ชีวิตแบบทำงาน 3 วัน พักผ่อน 4 วัน
จะเป็น Entrepreneur ไม่ได้ เพราะคนที่มีอาชีพผู้ประกอบการจริงๆ โดยเฉพาะในยุคนี้ จะต้องทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา
เพราะเทคโนโลยีที่มาใหม่ ทำให้ลูกค้าอาจถามมาตอนตี 3 ถ้าผู้ประกอบการตอบสนองลูกค้าได้เร็ว ก็จะได้ธุรกิจเร็ว
ดังนั้นสิ่งสำคัญของการทำธุรกิจส่วนตัวคือต้องถามตัวเองว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน ความพร้อมด้านความคิด
หรือทัศนคติ ถ้าใครคิดว่ามีอาชีพฟรีแลนซ์ แล้วทำค้าขายออนไลน์ แบบทำ 3 วัน พัก 4 วันนั้น ทำออนไลน์ไม่ได้ เพราะ
ไปไม่รอด ธุรกิจทำงานเกือบ 7 วัน เขาถึงเรียกซีอีโอรุ่นใหม่ว่า “ซีอีโอ 7×24” ต้องทุ่มเทกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง
เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องสำคัญคือวิธีคิด เมื่อก่อนเราจะถามว่าจุดขายของสินค้าหรือบริการของคุณคืออะไร แต่ยุคนี้เปลี่ยนใหม่ ต้องถามว่าจุดที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของคุณคืออะไร เพราะจุดขายไม่สำคัญเท่าจุดซื้อ วันนี้เมื่อเอาสินค้าและบริการทั้งหมดไปสู่ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ จะเจอคนขายมากกว่าคนซื้อในช่วงเวลานั้น ผู้ซื้อสามารถกดเข้าไปในสื่อออนไลน์ เขาจะรู้ว่าสินค้าที่เขาต้องการซื้อมีใครขายบ้างในโลกนี้ เขาสามารถเปรียบเทียบได้ รอเพียง 2 วัน ของก็ส่งถึงบ้าน
เพราะฉะนั้นมุมมองของคนขายต้องเปลี่ยนไป ใครที่แก้ปัญหาเรื่องจุดซื้อได้นั้นรวยกันทุกคน และยิ่งต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ เพราะผู้ซื้อเปลี่ยนใจได้ตลอด และไม่มีรอยัลตี้ต่อสินค้าแล้ว คนซื้อจะเชื่อคนที่บอกเล่าจากสิ่งที่เขาได้พบ ได้เห็น ได้อ่าน จากคนที่เป็นพวกพ้อง เชื่อเพื่อน เชื่อห้องแชทที่เขาเป็นสมาชิกอยู่ จึงเป็นจุดที่ทำให้การโฆษณาสินค้าเปลี่ยนแปลง เมื่อก่อนต้องใช้ดารา หรือคนมีชื่อเสียง แต่ปัจจุบันไม่จำเป็นแล้ว คนธรรมดาก็มีอิทธิพลต่อการซื้อสินค้าได้
เดี๋ยวนี้จะมีลักษณะสินค้าแบบใหม่ ใครอยากจะขายก็ต้องเอาตัวอย่างสินค้าไปให้คนที่มีอิทธิพลใกล้ตัวใช้ หรือยืมไปใช้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ เวลาไปซื้อรถยนต์เขาจะให้ไปทดลองขับ ติดใจแล้วค่อยมาซื้อ ในต่างประเทศเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะสินค้าที่ซื้อไปสามารถเอามาคืนได้ภายใน 30 วัน ก็คือการให้ทดลองใช้ บ้านเราอีกไม่นานก็ต้องพัฒนา
มีแบบนี้เช่นกัน สมัยนี้ต้องสังเกตว่า พฤติกรรมและอะไรหลายๆ อย่างเปลี่ยนไป จะทำธุรกิจแบบเดิมๆ ไม่ได้แล้ว ต้องทันโลกทันเหตุการณ์
มงคล กล่าวว่า เงินจึงไม่ได้สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจ แต่อยู่ที่วิธีคิด และสุขภาพก็เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญเช่นกัน ถ้าสุขภาพไม่ดี เราก็ทำงานแบบทุ่มเทไม่ได้ และอาจต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อรักษาตัว ส่วนการบริหารการเงินก็มีความจำเป็น เพราะคนจะรวยได้ต้องมีกระเป๋า 3 ใบ หรืออย่างน้อยต้องมีมากกว่า 1 ใบ ถ้ามีกระเป๋าใบเดียวไม่มีทางรวย
“กระเป๋าใบแรก เกี่ยวกับเรื่องธุรกิจ คือขายของได้ก็เอาเงินใส่กระเป๋านี้ ซึ่งกระเป๋านี้ต้องเก็บไว้เพื่อซื้อสินค้า เพื่อใช้จ่ายในการทำธุรกิจ กระเป๋าใบที่ 2 ใช้จ่ายส่วนตัว ต้องกำหนดไว้เลยว่าวันหนึ่งจะใช้เท่าไร กระเป๋าใบที่ 3 สำคัญมาก คือเงินออม การลงทุน เงินที่เกี่ยวกับอนาคต การศึกษาลูก สุขภาพ การทำประกันชีวิต เรื่องที่ลดความเสี่ยง ทำให้งอกเงย และเมื่อเราไม่ทำงานแล้วสามารถอยู่ได้”
ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่คือคนมักจะเอาทั้ง 3 กระเป๋ามาปนกัน แล้วหมุนเงินไม่ทัน ซึ่งเงินกระเป๋าที่ 3 มีความสำคัญ เพราะตอนที่ค้าขายไม่ดี เงินก้อนนี้เอามาใช้ฉุกเฉินได้ ซึ่งคนที่ริเริ่มกิจการจะต้องมีวินัยมาก
เรื่องสุดท้ายเป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่ง คือ เวลาที่มีปัญหาการเงิน เราจะไม่วางแผนล่วงหน้า แต่มักจะไปขอยืมจากเพื่อน พ่อแม่ หรือพี่น้อง เมื่อเขาไม่ให้ยืมก็โกรธ ทำให้มีปัญหาได้ เรื่องนี้ตนต้องเป็นที่พึ่งแห่งตน และไม่ให้คิดเลยว่าต้องไปยืมจากใคร แต่ให้ไปเอาจากกระเป๋าที่ 3 แทน
ดังนั้น ผู้ที่จะมาเป็นนักธุรกิจ อันดับแรกให้คิดก่อนว่าตัวเราพร้อมจะมาเป็นผู้ประกอบการหรือไม่ ต้องพร้อมทำงานแบบ 7×24 เรื่องที่ 2 คือวิธีคิดของการทำธุรกิจ ต้องมองผู้ซื้อเป็นหลัก มองจุดที่เขาตัดสินใจซื้อ เรื่องที่ 3 คือ การวางแผนการเงิน คือ กระเป๋า 3 ใบ ใบหนึ่งใช้จ่ายธุรกิจ ใบหนึ่งใช้จ่ายส่วนตัว ใบหนึ่งเก็บออม หรือลงทุนฉุกเฉิน เผื่อจำเป็นในอนาคต และสิ่งสำคัญที่สุด คือตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
@
