จากธุรกิจหัวฉีดพลังเทอร์โบพ่นละอองน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นในภาคอุตสาหกรรมหนัก เช่น โรงงานปูนซีเมนต์ หรือ เหมือง ปัจจุบันแบรนด์ TBF ได้เข้ามาช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5
อภิชัย จิตต์สังวรวงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทอินเตอร์สเปรย์ จำกัด เจ้าของแบรนด์ TBF กล่าวว่า ธุรกิจนี้เริ่มขึ้นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ในกลุ่มธุรกิจที่เป็นวิศวกรและนักการตลาดส่วนหนึ่ง หลังจากวิกฤติต่างๆ ที่ผ่านมา ก็มองหาสินค้าที่มีสเกลเล็กลง และมองเรื่องโลจิสติกส์เป็นอันดับแรก โดยยังไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเป็นสินค้าอะไร แต่มองเรื่องค่าน้ำหนัก และการขนส่ง เพื่อให้เกิดความประหยัดก่อน
เพราะโลจิสติกส์เป็นต้นทุนที่ทุกคนกังวล เราจึงมองหาสินค้าที่เป็นไฮเทคโนโลยี มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สามารถนำพาไปได้ด้วยคนเพียงไม่กี่คนในการไปส่งสินค้าให้ลูกค้า ก็จะประหยัดเรื่องทุนด้านโลจิสติกส์
2.สินค้าตัวนี้ต้องมีนวัตกรรม ต้องมีความหลากหลายในลักษณะการใช้งาน ทั้งงานอุตสาหกรรม และภาคอื่นๆ ด้วย เพราะบางครั้งตลาดภาคอุตสาหกรรมก็อาจชะลอตัวตามธุรกิจทั่วไป เราจึงต้องลดความเสี่ยงด้วยการขยายฐานลูกค้า ดังนั้นสินค้าที่นำมาขาย ควรจะต้องขายได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม
3.การตั้งชื่อบริษัท นอกจากขายสินค้าในประเทศแล้ว เราก็อยากขายไปสู่โกลบอลด้วย จึงตั้งชื่อบริษัทว่า “อินเตอร์” ในการทำธุรกิจจะต้องมีแบรนด์ดิ้ง จะทำอย่างไรที่จะสื่อว่าเป็นแบรนด์ แล้วตัวโปรดักส์ก็อยู่ในแบรนด์ดิ้งด้วย
ซึ่งคำว่า “สเปรย์” ก็ลงตัวว่าเราขายหัวฉีดสเปรย์ และคำว่า “อินเตอร์” มีความหมายว่าหัวฉีดของเราอยู่ในมาตรฐานสากล และอีกนัยหนึ่งคือ ทาร์เก็ตของเราถ้าเป็นไปได้ เราก็อยากไปสู่โกลบอล
ดังนั้นชื่อแบรนด์ของอินเตอร์สเปรย์ คือ TBF ย่อมาจาก Turbo Fan FOG Machine ซึ่งก็คือ พลังเทอร์โบ ที่ได้มาจากพลังงานลมจากพัดลม หรืออุโมงค์ลม มาบวกกับหัวฉีดที่พ่นได้ไกล 30-50 เมตร ปัจจุบันพ่นได้ถึง 100-120 เมตร เป็นการนำข้อเด่นของสินค้า 2 ชนิดมารวมกัน
ทาร์เก็ตหลักๆ ก่อนที่บริษัทจะขยายตลาด เครื่องตัวนี้ถูกใช้ในอุตสาหกรรมหนักที่มีฝุ่น เช่น เหมือง โรงงานปูนซีเมนต์
โดยนวัตกรรมบางอย่างก็มาจากการแนะนำของลูกค้า เช่น ตอนแรกที่เรานำสินค้าไปเสนอมีแต่เทอร์โบ แต่ไม่มีตัวรถลาก ลูกค้าก็บอกว่าเขาขนย้ายไม่สะดวก อยากจะให้เราทำรถเทรลเลอร์ที่วางตัวสินค้า และลากไปในไซต์งานได้ ซึ่งเราก็ผลิตให้ตามความต้องการของลูกค้า
“ปัจจุบันธุรกิจหลายอย่างกำลังถูกเทคโนโยลีดิสรัปชั่น ซึ่งเรื่องดิสรัปชั่นนั้นความจริงมีตลอดเวลาไม่ว่ายุคไหน ตั้งแต่มือถือ กล้องฟิล์ม เราจะทำอย่างไร และแทนที่จะถูกดิสรัปต์ เราก็ทำตามเขา ขอยืมเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กรของเรามาใช้ แล้วเดินไปพร้อมกับเขา อาจช้าไปบ้างแต่ไม่ตกยุคแน่นอน ต้องเรียนรู้และศึกษาเพิ่มเติมไป” อภิชัย กล่าว
อภิชัย กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทก็ใช้ความสามารถของไอโอที หรือ เอไอ แต่ยังไม่ได้ใช้โรบอท ส่วนใหญ่จะใช้พวก
โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น เวลาที่ฝ่ายขายไปพบลูกค้า แล้วลูกค้าอยากรู้ว่าเรามีสินค้าตัวนี้อยู่เท่าไร เราก็จ้างน้องๆ
ให้ช่วยคิดระบบง่ายๆ โดยใช้เอไอเข้ามาช่วยให้ดูเรียลไทม์ ลิงก์กับสต๊อกของเราได้
การทำเอไอหรือระบบไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง เพราะแต่ละองค์กรมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน อย่างใบเสนอราคา
ในเอสเอ็มอีทั่วไปจะใช้เวิร์ดเอ็กซ์เซล ซึ่งใครก็เข้าไปแก้ไขได้ เราจึงให้ผู้ที่ทำระบบเขียนระบบขึ้นมาง่ายๆ โดยให้โจทย์ว่าข้อเสียของเอ็กซ์เซลที่เราไม่อยากได้คือแก้ไขได้ และการเก็บบิ๊กดาต้าของลูกค้า เขาก็พัฒนาเป็นแอปพลิเคชั่นมาให้ ซึ่งแอปสมัยนี้ราคาไม่แพง
เมื่อได้ดาต้าของลูกค้า เราก็สามารถบริหารจัดการดาต้าของลูกค้าได้ โดยทำเป็นระบบ CRM หรือ Customer
Relationship Management เช่น ฝ่ายขายลงวันเกิดของลูกค้าในดาต้า เมื่อถึงวันเกิดลูกค้า เอไอก็จะส่งอีเมลไป
แฮปปี้เบิร์ดเดย์ลูกค้า ทำให้ลูกค้าประทับใจ เพราะปัจจุบันนอกจากขายสินค้าแล้ว เราต้องขายเซอร์วิสด้วย โดยใช้
จุดเด่นของคนไทยให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจ อย่างรอยยิ้ม สวัสดี เป็นสิ่งที่ไม่ต้องลงทุน ทำแล้วลูกค้าเกิดความ
ประทับใจจากระดับบุคคลไปสู่ระดับองค์กรด้วย
ส่วนปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 นั้น อภิชัย กล่าวว่า จากผลงานวิจัยพบว่า PM 2.5 ส่วนหนึ่งมาจากการผลิตไฟฟ้า ส่วนหนึ่ง
มาจากโรงงานอุตสาหกรรม และการเผาในที่โล่งที่มาเป็นอันดับหนึ่ง รวมทั้งการใช้รถยนต์มากขึ้นในแต่ละปี ซึ่งปีนี้
กฟผ.แม่เมาะ ซื้อสินค้าของบริษัทไป 18 เครื่อง เพื่อใช้ในเหมือง ขณะที่กลุ่มเอสซีจีก็ซื้อไปเพื่อบรรเทาเรื่องฝุ่นใน
กระบวนการผลิตของโรงงานปูนซีเมนต์
หัวฉีดพลังเทอร์โบจะเป็นตัวที่ช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองให้ลดความรุนแรงลง เมื่อฉีดละอองเทอร์โบขึ้นไปในบรรยากาศ สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือความชื้นบริเวณนั้นจะดีขึ้น นอกจากจะช่วยบรรเทาเรื่องฝุ่นแล้ว ยังช่วยลดความร้อนได้ด้วย
สำหรับการส่งสินค้าไปต่างประเทศนั้น ขณะนี้บริษัทเพิ่งเริ่มออกโรดโชว์ ออกบูธ ในประเทศเพื่อนบ้าน CLMV โดยเริ่มที่ประเทศเวียดนามก่อน แต่ยังไม่ได้ขายสินค้า ซึ่งการบุก CLMV ก็ไปในช่วงที่เรามีกำลัง เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงลง ถ้าการบริโภคหรือกำลังซื้อในประเทศถดถอย เหมือนกับการขยายฐานลูกค้า ที่บริษัทพยายามจะขายให้ได้ทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ถ้ากลุ่มไหนชะลอตัว ก็ยังมีกลุ่มอื่นทดแทน โดยบริษัทมีหัวฉีดมากกว่า 100 แบบ
บริษัทอินเตอร์สเปรย์ เป็น Assembly คือนำเข้าชิ้นส่วนต่างๆ มาจากต่างประเทศ เข้ามาประกอบ ส่วนใหญ่นำเข้า
จากประเทศจีน และญี่ปุ่น โดยเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุดกับประเทศไทย และมีทีมวิศวกรเซอร์วิสหลังการขาย เพราะ
เซอร์วิสหลังการขายนั้นสำคัญมาก บริษัทจึงเน้นตรงนี้เป็นพิเศษ และบริษัทยังให้ลูกค้าทดลองใช้สินค้าหน้างานว่า
ตรงตามความต้องการ ตรงกับลักษณะงานของลูกค้าหรือไม่ โดยจะมีวิศวกรไปอธิบายการใช้งานด้วย
หัวฉีดละอองพลังเทอร์โบ นอกจากจะช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองแล้ว ยังช่วยคลายร้อนในงานอีเว้นท์ต่างๆ
ซึ่งปีหน้าบริษัทวางเป้าหมายที่จะขายให้ลูกค้ารายย่อยมากขึ้น และตอนนี้แบรนด์ TBF ได้รับการจดทะเบียน
เครื่องหมายการค้าจากกระทรวงพาณิชย์ว่าเป็นแบรนด์ของคนไทยเรียบร้อยแล้ว จึงพร้อมแล้วที่จะไปบุกตลาดต่างประเทศ @