วิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ทุกคนต้องปรับตัว ต้องทำงานแบบ work from home รวมถึงการใช้ซอฟต์แวร์ด้านบัญชีที่ผ่านระบบคลาวด์ ทำให้สามารถทำงานอยู่ที่บ้านเพื่อลดการแพร่เชื้อได้
รศ.ศรัณย์ ชูเกียรติ ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท ไทรแองเกิ้ลซอฟท์ จำกัด กล่าวว่า วิกฤติเชื้อไวรัสโควิด-19 มาในโอกาสที่ดี เพราะความจริงเทคโนโลยีที่รองรับการทำ work from home มีมานานแล้ว มีการพัฒนาเทคโนโลยีไม่ต่ำกว่า 10 ปี แต่ที่ผ่านมาไม่ได้มีองค์กรถูกกระตุ้นให้ทำงานแบบ work from home หรือ work anywhere เพราะทุกคนยังเคยชินกับการทำงานในรูปแบบเดิม แต่วันนี้การปรับตัวจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น work from home ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดี
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีหลายตัวที่รองรับการทำงานเป็นทีม ส่วนใหญ่เราจะนึกถึงตัวระบบงานที่เน้นเรื่องการประชุมผ่านทางไกลที่เรียกว่า วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยใช้ซอฟต์แวร์ เช่น Zoom, Google Hangouts, WebEx หรือ Microsoft Teams ที่จะช่วยให้องค์กรส่งเสริมให้พนักงานสามารถที่จะทำงาน collaboration เป็นทีม ไม่ว่าจะทำงานที่บ้าน หรือทำงานที่ไหนก็ตาม ร่วมกับพนักงานคนอื่นๆ ในองค์กรได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมาพบกัน
และการทำงานก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย เพราะในการหารือกัน การประชุม หรือการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ไม่ว่าจะเป็นการพูดสื่อสารกัน หรือการพิมพ์ข้อความแชทโต้ตอบกัน ทั้งหมดจะถูกบันทึกไว้ เหมือนกับมีคนช่วยจดรายงานการประชุมให้โดยอัตโนมัติโดยเทคโนโลยีตัวนี้
อุปสรรคการทำงานแบบ work from home ข้อแรกคือเรื่องอินเตอร์เน็ตพื้นฐาน ปัจจุบันที่บ้านประชาชนก็นิยมติดตั้งไฮสปีดอินเตอร์เน็ต ร้านกาแฟในต่างจังหวัดก็มีอินเตอร์เน็ต ในห้างสรรพสินค้าก็มีฟรีอินเตอร์เน็ตให้ใช้ เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งเสริมให้ทุกคนทำงานที่บ้าน ซึ่งพื้นฐานที่บ้านก็ต้องมีอินเตอร์เน็ต หรือถ้าไม่มี อย่างน้อยมือถือที่สมัครอินเตอร์เน็ตใช้ 4 จี ก็สามารถที่จะรองรับการทำงานได้ในปัจจุบัน และปีหน้าประเทศไทยก็จะก้าวเข้าสู่ 5จี ก็น่าจะดีในระยะยาว
อุปสรรคข้อสอง คือเรื่องการปรับตัว ความคุ้นชินหรือประสบการณ์ที่จะเริ่มต้น work from home ในวันนี้ หรือบางบริษัทอาจจะเริ่มต้นมาก่อนหน้านี้ แต่ในสถานการณ์โควิด-19 มีหลายๆ บริษัท หลายๆ องค์กร ทุกๆ คนก็ต้องปรับตัว เชื่อว่าจะมีคน work from home มากขึ้น ซึ่งใช้ระยะเวลาในการปรับตัวไม่มากนัก
รศ.ศรัณย์ ยกตัวอย่าง work from home ที่เห็นผลอย่างชัดเจน คือ การเรียนการสอนแบบออนไลน์ ซึ่งตอนนี้ทุกมหาวิทยาลัย อาจารย์ทุกคนต้องปรับตัวเหมือนกันหมด แต่ประสบการณ์หรือความคุ้นเคยของอาจารย์แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในที่สุดแล้วทุกคนก็ปรับตัวได้ 100%
รศ.ศรัณย์ซึ่งเป็นอาจารย์สอนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ในการเรียนออนไลน์พบว่า 1.สถิติของนิสิตที่เข้าเรียนจะมากกว่าการเรียนแบบปกติ เพราะเรียนแบบปกติ นิสิตบางคนก็อาจติดเรื่องการเดินทาง แต่พอเรียนออนไลน์ ทุกคนก็พร้อมออนไลน์ได้ตลอดเวลาตามเวลาที่นัดหมายไว้
2.ผลการเรียนการสอนผ่านออนไลน์จะถูกตัดเป็นคลิปวิดีโอ ซึ่งนิสิตสามารถมาดูย้อนหลังได้ 3.บรรยากาศการเรียนจะไม่กดดันเท่ากับการเรียนที่ห้อง ถ้านิสิตสงสัยก็จะสามารถแชทถามได้ทันที หรืออาจขออนุญาตเปิดไมค์แล้วแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ ส่วนใหญ่เท่าที่สังเกตนิสิตจะไม่โชว์โปร์ไฟล์รูปตัวเอง ตรงนี้ทำให้การแสดงออกของนิสิตไม่เหมือนในห้องเรียน เพราะนักศึกษาหรือนิสิตไทยมีลักษณะคล้ายกัน คือไม่กล้าแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะมากนัก
ส่วนเคสธุรกิจ ไทรแองเกิ้ลซอฟท์ทำธุรกิจในเรื่องของซอฟต์แวร์บัญชี ครอบคลุมทุกขนาดตั้งแต่กิจการขนาดใหญ่ไปถึงกิจการขนาดเล็ก ซึ่งซอฟต์แวร์ DACCOUNT ก็พัฒนาตัวเองเข้าไปอยู่บนระบบ Cloud Computing แล้ว ดังนั้น ในกรณีของธุรกิจที่ใช้ DACCOUNT อยู่ ก็สามารถจะปรับตัวได้ไม่ยากเลย
ไม่ว่างานส่วนหน้า เช่น งานเรื่องของการขาย เรื่องของการจัดซื้อ หรืองานส่วนหลังที่เป็นงานแบ็คออฟฟิศ ก็คืองานด้านบัญชี ตอนนี้สามารถจะทำงานที่ไหนก็ได้ หรือจะ work from home ก็ทำได้ โดยข้อมูลทุกอย่างจะซิงค์ผ่านระบบคลาวด์ ดังนั้น เมื่อมีธุรกรรมการค้าเกิดขึ้น ข้อมูลทุกอย่างจะถูกส่งมาบันทึกบัญชีผ่านระบบคลาวด์โดยอัตโนมัติ
นักบัญชีของบริษัทที่ใช้โซลูชันของ DACCOUNT จะนั่งทำงานอยู่ที่ไหนก็ได้ ระบบของ DACCOUNT ก็มีโซลูชันพร้อมอยู่แล้วสำหรับกิจการขนาดใหญ่ แต่สำหรับกิจการขนาดเล็ก ก็สามารถจะใช้งานโซลูชันของ DACCOUNT ได้ เพราะ DACCOUNT จะมีโซลูชันของซอฟต์แวร์สำหรับเอสเอ็มอี ที่เอสเอ็มอีสามารถดาวน์โหลดไปติดตั้งแล้วใช้งานบนระบบคลาวด์ได้เหมือนกับที่กิจการขนาดใหญ่ใช้ ดังนั้น ถ้าธุรกิจใช้โซลูชันของซอฟต์แวร์ลักษณะคล้ายๆ กับของ DACCOUNT ที่เป็น Cloud Computing ในการทำธุรกรรม ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรกับสถานการณ์ในวันนี้
รศ.ศรัณย์ กล่าวว่า โซลูชันของ DACCOUNT มองเรื่องการตอบสนองการทำงานขององค์กร ดังนั้นจะมีโซลูชันเรื่องการอนุมัติผ่านอีเมล หรือการอนุมัติผ่านระบบการใช้ไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน ซึ่งเทคโนโลยีในอนาคตนั้น ทุกอย่างจะไปผูกติดกับโซเชียลเน็ตเวิร์คทั้งหมด จะมีเรื่องของบอทที่เป็นออโต้เมท มาช่วยให้การทำงานของนักบัญชีสะดวกขึ้น ดังนั้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องเอไอ หรือโรบอท ก็จะเข้ามาสู่กระบวนการทำงานของโซลูชั่นทางด้าน Accounting software หรือ ERP Software ส่วนตัวเชื่อว่าเทรนด์วันนี้ทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว
สำหรับผู้สนใจอยากจะทดลองผลิตภัณฑ์ของ DACCOUNT สามารถเข้าไปที่ www.trianglesoftwaregroup.com หรือ www.d-account.com หรือโทรสายด่วน 063 2033838 @
