บริษัทช้างกุญชรใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ร.9 แม้เกิดวิกฤติไวรัสโควิด-19 ก็ไม่เจ็บหนัก มีการกันเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน พร้อมปรับเปลี่ยนช่องทางการขาย เน้นออนไลน์ ยอดขายโต 100%
จักราพัฒน์ อุ่นหนาฝาคั่ง ผู้ก่อตั้ง บริษัทช้างกุญชร จำกัด ผลิตและจำหน่ายยาหม่องตราช้างกุญชร น้ำมันบำรุงผิว โคลนขมิ้นขัดผิว โคลนนางงาม กล่าวว่า สินค้าที่ขายจะเป็นสมุนไพรปลอดสารเคมี ปลูกตามธรรมชาติที่สวนสมุนไพรที่ จ.ปราจีนบุรี ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ซึ่งการใช้สมุนไพรจะเป็นการรักษาที่ยั่งยืนและรวดเร็วตามแบบฉบับสมุนไพรโบราณ ต่างจากแนวทางการรักษาแบบปัจจุบัน ที่สินค้าส่วนใหญ่จะมีน้ำหอม มีสารเคมี แล้วมีสีที่ผสมลงไป เป็นการรักษาที่รวดเร็วทันใจ แต่การรักษาแบบยั่งยืนจะน้อยมาก
สำหรับวิกฤติไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง และในกลุ่มเอสเอ็มอีคนตัวเล็กที่เจ็บหนัก สาเหตุเป็นเพราะกู้เงินมาใช้เยอะ โชคดีที่เราเกิดในประเทศไทย เพราะมีปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ร.9 เมื่อเรามาปรับใช้กับธุรกิจ ก็จะเจ็บตัวน้อย เพราะในปรัชญานี้จะมีความพอประมาณในการดำเนินธุรกิจ เราต้องมองรูปแบบของธุรกิจเรา เพราะธุรกิจแต่ละธุรกิจจะไม่เหมือนกัน
“ธุรกิจของเราใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง การเติบโตเราไม่เอาเยอะ เราเอาเท่าที่ผลกำไรที่ได้ มาขยายผลธุรกิจถัดไปในอนาคต เราก็ต้องมีเหตุผลในการเอามาใช้ ตอนนี้ออเดอร์ของเราเพียงพอกับเครื่องจักรตัวประมาณแค่นี้ ใช้คนงานแค่นี้ ใช้สมุนไพรแค่นี้ในการปลูก แล้วเราต้องมีภูมิคุ้มกันอยู่ตลอด อย่างธุรกิจของเราจะมีเงินทุนอยู่ก้อนหนึ่ง ถ้ามีเงินเหลือจากกำไรก็จะเอามาคาไว้ เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรในอนาคต ต้องมีเงินที่เตรียมไว้เผื่อฉุกเฉิน”
จักราพัฒน์ กล่าวว่า ตอนนี้ยอดขายก็ลดไปพอสมควร เพราะเรามีช่องทางขายส่วนใหญ่อยู่ในห้างสรรพสินค้า คือร้านตำรับไทย ซึ่งสามารถเปิดร้านได้ แต่ก็ได้รับผลกระทบเพราะคนเข้าห้างน้อยลง ยอดหายไป 30-40% ซึ่งผลกระทบครั้งนี้ เราก็ผลิตสินค้าน้อยลง พร้อมปรับเปลี่ยนช่องทางการขาย หันมาเน้นขายออนไลน์มากขึ้น
ความจริงเราเตรียมแผนไว้ก่อนหน้านี้ เรามีเฟซบุ๊ก มีไลน์ มีลูกค้าติดต่อผ่านมาทางนี้พอสมควรอยู่แล้ว แต่ข้อดีของโควิด-19 ครั้งนี้ คือ ลูกค้าเริ่มไม่เข้าห้าง ก็จะโทรหาเราตามเบอร์โทรข้างขวด ตามเฟซบุ๊ก ทางไลน์มากขึ้น ทำให้เติบโตจากทางไลน์ เฟซบุ๊ก ทางออนไลน์ ประมาณ 100% เลย และในอนาคตเราจะทำโปรโมชั่น ซึ่งเป็นส่วนลด เป็นการเข้าแอปพลิเคชั่นต่างๆ เช่น Shopee เราวางแผนอยู่ว่าจะเข้าไปโฆษณากับแอปฯ พวกนี้
นอกจากนี้ ที่เอสเอ็มอีแบงก์ เปิดตลาดนัดออนไลน์สำหรับเอสเอ็มอี ภายใต้ชื่อ “ฝากร้านฟรี SME D Bank” เราก็เข้าไปสมัครเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ออเดอร์ออนไลน์เยอะขึ้น แต่ออเดอร์ต่างประเทศลดลง เพราะมีการแคนเซิลกันพอสมควร เนื่องจากนำเข้าไม่ได้ ส่งออกไม่ได้ สินค้าก็ไปติดอยู่ท่าเรือ แต่ในประเทศเรายังใช้กันอยู่ แบรนด์ที่ใช้ขายในร้านตำรับไทย จะเป็นยาหม่องช้างกุญชร และยาหม่องมุกมณี
สำหรับการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ช่วยเหลือเอสเอ็มอี จักราพัฒน์ กล่าวว่า ได้กู้เอสเอ็มอีแบงก์ ดอกเบี้ยถูกมากเพียง 1% เราก็เลยเข้ามาร่วมเพื่อจะพัฒนาสินค้าใหม่ เพราะร้านตำรับไทย มี 115 สาขา สินค้าเรามี 20 กว่าชนิด เราต้องเอาเงินกู้ตัวนี้ไปทำสินค้าใหม่ไปส่งตำรับไทย ให้มีสินค้าครบ 20 ชนิด
ซึ่งสินค้าใหม่ที่จะทำเป็นอาหาร เป็นยา เพราะคุณพ่อมีแนวคิดว่า ทุกวันนี้ที่เรากินอาหาร ก็เป็นยารักษาโรคอยู่แล้ว เราจะดูพวกกระเพรา หัวหอม ขึ้นมาปรับใช้กับธาตุเจ้าเรือนของแต่ละคน แล้วปรับเมนูอาหารของแต่ละคนเพื่อจะได้สร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายเพื่อต่อต้านไวรัสต่างๆ ที่จะเข้ามาในอนาคต นี่คือทางเลือกใหม่ของสินค้าใหม่ที่เราจะทำขึ้นมา
จักราพัฒน์ กล่าวว่า เมื่อเกิดวิกฤติ ทำให้เรารู้สึกถึงโอกาสหนึ่งว่า ธุรกิจที่เกิดจากเกษตรกรจะอยู่ได้ การพึ่งพาตัวเอง การเป็นสมาร์ทฟาร์ม ซึ่งตนเองกำลังมองในเรื่องนี้ ถ้ามีการออกซอฟต์โลนให้เอสเอ็มอี ก็จะกู้ไปทำสมาร์ทฟาร์มของช้างกุญชร โดยนำเทคโนโลยีเข้ามา ทำให้เป็นฟาร์มปลอดสารพิษ ทำเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่สุด และทำสินค้าให้ดีที่สุด เพื่อส่งขายในออนไลน์ @