รถกลุ่ม SUV ช่วยประคองยอดขายมาสด้าฝ่าโควิด-19 จัดโปรโมชั่นแรงช่วงงาน Big Motor Sale พร้อมจัดกิจกรรม “Mazda Caravan ปันสุข” ไปมอบของใช้ที่จำเป็น และทุนการศึกษาให้โรงเรียนในชนบททั้งสี่ภาค ช่วยเหลือผู้ขาดแคลน
ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างยากลำบากของทุกคน โดยช่วงที่อุตสาหกรรมรถยนต์มียอดจำหน่ายต่ำที่สุดคือ ช่วงเดือนเมษายน และพฤษภาคม ภาพรวมใน 7 เดือนแรก เทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน น่าจะตกลงไปประมาณ 35% แต่เราก็เริ่มเห็นสัญญาณบวกในเดือนกรกฎาคม ที่อาจมีปัจจัยเรื่องการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ
ทำให้บริษัทรถยนต์ หรือผู้จำหน่ายสามารถกลับมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายและการตลาดได้มากขึ้น หลังจากมาตรการผ่อนคลาย รวมทั้งบรรยากาศของผู้บริโภคก็มีความผ่อนคลายมากขึ้น และอาจมีปัจจัยเสริมเข้ามาอีกก็คือการจัดงานมอเตอร์โชว์ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้ทุกๆ คน ทั้งผู้ขาย ผู้ซื้อ มีบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับสถานการณ์ปกติมากขึ้น
สำหรับมาสด้าก็ดรอปเหมือนทุกอุตสาหกรรม แต่เราโชคดีที่การเปิดตัวของ Mazda CX-30 ทำให้ในกลุ่มที่อาจมีกำลังซื้อ และทำให้เรามีรถที่เรียกว่า CX ซีรีส์ หรือ ครอสโอเวอร์ SUV ถึง 4 รุ่นในตลาด
คือ CX-30, CX-3, CX-5 และ CX-8 ซึ่งเราได้กลุ่มของ SUV มาประคองตัว ทำให้ยอดขายกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น แต่ในกลุ่มของรถยนต์นั่งขนาดเล็ก อีโคคาร์ หรือรถกระบะ หรือรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็ก ก็จะดรอปลงไปตามอุตสาหกรรม
ธีร์ กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยนิยม SUV มากขึ้น ซึ่งเป็นเทรนด์ของความอเนกประสงค์ โดย SUV เข้ามาเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภค จากเดิมที่ตลาดบ้านเราจะเป็นรถซีดาน หรือรถยนต์นั่งสี่ประตูเป็นหลัก เพราะ SUV ในปัจจุบันถูกออกแบบมาให้มีความหลากหลาย มีการผสมผสานระหว่างข้อดีของ SUV แบบดั้งเดิมที่เป็นรถตรวจการ ลุยไปตามสถานที่ต่างๆ และข้อดีของรถยนต์นั่ง จึงเรียกว่าครอสโอเวอร์ ใช้ในเมืองก็คล่องตัว ใช้ในลักษณะสมบุกสมบันก็สะดวก
การจัดโปรโมชั่นแรงๆ ก็มีส่วนช่วยในการทำตลาด เพราะโปรโมชั่นจะทำให้คนที่มีความต้องการที่จะซื้อสามารถตัดสินใจได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน อย่างงานมอเตอร์โชว์ที่จบไปแล้ว และงาน Big Motor Sale ที่กำลังจัดแสดงอยู่จนถึงวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคมนี้ มาสด้ามีการนำเสนอโปรโมชั่นที่เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด
ทั้งแคมเปญดอกเบี้ย 0% แคมเปญที่ส่งเสริมให้ลดค่าใช้จ่ายหลังจากการออกรถ เช่น ฟรีค่าบำรุงรักษา ฟรีค่าแรงเช็กระยะ ซึ่งจะไม่เสียค่าแรงเลยใน 5 ปี หรือ 100,000 กม. รวมทั้งการขยายเวลารับประกันคุณภาพจาก 3 ปี เป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม. ถ้าระบบอะไรที่อยู่ในการรับประกันสามารถที่จะเปลี่ยนให้จนถึง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นแคมเปญที่เราให้ในงาน Big Motor Sale และให้ในโชว์รูมทั่วประเทศด้วย แต่จะให้จนถึงวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคมนี้เท่านั้น
ธีร์ กล่าวว่า ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่คนต้องทำงานอยู่ที่บ้าน สถานประกอบการหรือร้านค้าต่างๆ ต้องปิด เราก็จับมือกับผู้จำหน่าย มาสด้า ดีลเลอร์ทั่วประเทศ จัดตั้งตู้ปันสุขที่หน้าโชว์รูมมาสด้า แล้วก็เลยคิดว่าจะต่อยอดการแบ่งปันตรงนั้น โดยจัดกิจกรรม “Mazda Caravan ปันสุข” นำสื่อมวลชน และพนักงานมาสด้า ไปมอบของใช้ที่จำเป็น และทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนในชนบททั้งสี่ภาค
เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม ไปที่ จ.จันทบุรี และต่อเนื่องไปตลอดทั้งเดือนกันยายน คือ ที่ จ.ขอนแก่น เชียงใหม่ กระบี่และหาดใหญ่ เป็นคาราวานที่เราจะเอาของไปแบ่งปันผู้ที่ขาดแคลน ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปัจจุบัน และมอบทุนการศึกษาให้โรงเรียนในชนบทด้วย
“สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ในช่วง 5 เดือนที่เหลือของปีนี้ แนวโน้มน่าจะค่อยๆ ขยับตัวดีขึ้น ครึ่งปีแรก มีตัวเลขอยู่ราว 3-4 แสนคัน เราก็มองว่า 5 เดือนที่เหลือ ถ้าไม่มีโควิด-19 รอบสอง เราควบคุมสถานการณ์ได้อย่างที่ทำได้ดีในปัจจุบัน แล้วงบประมาณต่างๆ ที่ภาครัฐเข้ามากระตุ้น หรือภาคเอกชน ภาคการลงทุน รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่ผ่อนคลายแล้ว ทำให้เราสามารถทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่างๆได้ ก็คิดว่าน่าจะจบที่ 7 แสนคัน ซึ่งก็น้อยถ้าเทียบกับปีที่ผ่านๆ มา” ธีร์ กล่าว
ตรงนี้ก็คงต้องอาศัยความมั่นใจของผู้บริโภคเป็นปัจจัยสำคัญ คิดว่าบรรยากาศมีความสำคัญมาก นอกเหนือจากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่เราพูดกัน หรือทางภาครัฐพูดว่าจีดีพีจะติดลบเท่าไร นอกเหนือจากตรงนั้น เรื่องของบรรยากาศของผู้บริโภค ความมั่นใจของผู้บริโภค แล้วก็เรื่องการควบคุมดูแลสุขอนามัย ถ้าเป็นสถานการณ์เช่นเดิม ก็คิดว่าน่าจะได้ที่ 7 แสนคันในปีนี้ ซึ่งก็ลดลงจากคาดการณ์ก่อนโควิด-19 อย่างไรก็ตามเราคงต้องจับตาดู โดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ว่า คาดการณ์ที่เราคาดการณ์ไว้จะมีการปรับอีกหรือไม่ @