แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการหลายๆ อย่าง เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ทำให้ไม่มีรายได้ แต่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหลายคนยังคงประสบปัญหาวิกฤติสภาพคล่อง เนื่องจากไม่สามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ หรือถ้ากู้ได้ก็อยู่ในวงเงินที่จำกัด ทำให้ต้องหันไปหาเงินกู้นอกระบบ ซึ่งมีเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม
ธนาคารออมสินจึงออกสินเชื่อ “SMEs มีที่ มีเงิน” ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีปัญหาสภาพคล่อง แล้วหาทางออกโดยเอาหลักประกันที่ดินไปทำการขายฝาก ซึ่งการขายฝากเป็นนิติกรรมที่ผู้กู้เสียเปรียบมาก เพราะต้องโอนกรรมสิทธิไปให้เจ้าของเงินกู้ ถ้าผิดนัดชำระ ที่ดินนั้นก็จะถูกยึดไปเลย
คุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อ “SMEs มีที่ มีเงิน” ได้แก่ เอสเอ็มอีที่เป็นบุคคลธรรมดาอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี นิติบุคคล รวมถึงวิสาหกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise ซึ่งต้องประกอบธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสภาพคล่อง หรือเพื่อให้ไถ่ถอนสัญญาการขายฝาก ที่ทำสัญญากันในช่วงวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ตุลาคม 2563 แต่ไม่รับรีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินอื่น สำคัญที่สุดคือต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่ดินก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2563
สินเชื่อ “SMEs มีที่ มีเงิน” เป็นสินเชื่อระยะยาว วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาจะให้กู้ตั้งแต่ 1-10 ล้านบาท ถ้าเป็นนิติบุคคล รวมถึง Social Enterprise ให้กู้ตั้งแต่ 1-50 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยถูกมาก 5.99%ต่อปี ตลอดระยะเวลาสัญญากู้ 3 ปี ระหว่างนี้จ่ายแค่ดอกเบี้ยอย่างเดียว ส่วนเงินต้นค่อยไปจ่ายเมื่อครบสัญญา ซึ่งถ้ากู้ 1 ล้านบาท ก็จะจ่ายดอกเบี้ย 5,000 บาทต่อเดือน เปิดให้สินเชื่อจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564
สินเชื่อ “SMEs มีที่ มีเงิน” เป็นทางเลือกให้ผู้ประกอบการสามารถนำที่ดินที่มีอยู่เอามาใช้ประโยชน์ในการรักษาสภาพคล่อง วงเงินสินเชื่อจะให้ไม่เกิน 70% ของราคาประเมินที่ดินของทางราชการ โดยจะให้เฉพาะที่ดินเพียงอย่างเดียว สิ่งปลูกสร้างจะไม่ตีราคาประเมิน
สินเชื่อนี้ไม่ต้องนำรายได้ผู้ประกอบการมาวิเคราะห์สินเชื่อ ไม่ต้องพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ เพราะไม่ได้ต้องการให้ผู้ประกอบการนำรายได้มาชำระคืนเงินต้น เพียงชำระดอกเบี้ยอย่างเดียว และไม่ต้องใช้ข้อมูลในเครดิตบูโรมาประกอบการพิจารณา ถ้ามีกรณีค้างชำระ ก็ยังให้โอกาสกู้ยืมได้ แต่กรณีที่ถูกฟ้องแล้ว และอยู่ในขั้นตอนล้มละลาย ไม่สามารถกู้ยืมได้
ผู้สนใจสามารถติดต่อธนาคารออมสินทุกสาขา หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th หรือเข้าไปที่ Facebook : GSB Society ในนั้นจะมีรายละเอียดโครงการ และใบรับสมัครลงทะเบียน @
