“ทีฟู้ด” ปรับโมเดลธุรกิจช่วงวิกฤติโควิด-19 แตกไลน์เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ t-time ติ่มซำ ช่วยเหลือคนตกงานที่ยังใจสู้ ซึ่งการทำธุรกิจในช่วงวิกฤติจะต้องเป็นแบบวิน-วิน ด้วยกันทุกฝ่าย
พงศธร มูฮัมหมัด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีฟู้ด จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์ t-time ติ่มซำ กล่าวว่า เดิมโรงงานทำธุรกิจผลิตขนมจีบ ซาลาเปา ฮะเก๋า ส่งให้โรงแรมและภัตตาคารชั้นนำมานานประมาณ 30 ปี เป็นโรงงานที่ได้มาตรฐาน GMP HACCP ต่อมาเกิดวิกฤติโควิด-19 ทำให้พ่อค้าแม่ค้า รวมถึงพี่น้องชาวไทยได้รับผลกระทบเยอะ บางคนตกงาน แต่ส่วนมากเป็นคนสู้ชีวิตที่ต้องการได้รับโอกาสที่ดี เพื่อไปดูแลครอบครัว
เราเลยกลับมามองว่าจะช่วยเหลือคนที่สู้ชีวิตได้อย่างไรบ้าง ซึ่งจุดแข็งของเราคือขนมจีบ ซาลาเปา ที่มีประสบการณ์ทำตรงนี้มายาวนาน จึงนำมาปรับโมเดลธุรกิจ แล้วแตกไลน์เป็นธุรกิจที่เป็นแฟรนไชส์ t-time ขนมจีบซาลาเปาเกิดขึ้นมาในช่วงโควิด-19 เพื่อช่วยพ่อค้าแม่ค้า หรือคนสู้ชีวิตที่อยากมีรายได้หลักเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว
โดยโมเดลแรกคือไม่ต้องลงทุนเลย ถ้าคนที่สนใจอยากเข้ามาทำ สมัครมาเพียง 990 บาท แล้วเราจะส่งทีมงานลงเซอร์เวย์พื้นที่ในละแวกใกล้เคียงที่ผู้สมัครสนใจเพื่อดูทำเลที่เหมาะในการขาย แล้วจะมีการสัมภาษณ์ถ้าผ่านเกณฑ์ที่เราคัดเลือก
เรายินดีลงทุนทั้งวัตถุดิบ อุปกรณ์ทุกอย่างให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมรายปี หรือค่าการตลาดใดๆ รวมถึงค่าเช่าสถานที่ในการตั้งร้านขาย ซึ่งเรามีผลตอบแทนรายวัน วันละ 300 บาท ให้คนที่สนใจมาลุยกับเรา รวมถึงทุกสิ้นเดือนจะมีการแบ่งเปอร์เซ็นต์จากยอดขายที่ได้สูงสุดถึง 20% ของยอดขาย
โมเดลที่สอง สำหรับใครที่สนใจซื้อแฟรนไชส์เป็นเจ้าของเลย มีทั้งแบบคีออส แบบรถเข็น แบบรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง แบบหน้าร้านขนาดใหญ่ ซึ่งเรามีพาร์ตเนอร์ที่เป็นโรงงานผลิตเค้าโครงพวกนี้ และมีพาร์ตเนอร์รายใหญ่ที่จำหน่ายมอเตอร์ไซค์ เพราะฉะนั้นเราสามารถควบคุมต้นทุนได้ และขายในราคาที่ไม่ได้บวกกำไรเลย สำหรับส่วนแบ่งเราจะให้เปอร์เซ็นต์จากกำไรมากถึง 50%
ทั้งนี้ ในงาน Smart SME Expo 2020 ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งจัดขึ้นที่ Hall 9-10 อิมแพ็ค เมืองทองธานี t-time อยู่ที่บูธ บี1 เราได้จัดโปรโมชั่นราคาพิเศษ คีออส จากราคาขายปกติ 15,900 บาท ในงานลดเหลือ 9,900 บาท ชุดรถเข็น ปกติขาย 25,900 บาท ในงานลดเหลือ 16,900 บาท ชุดรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง ปกติขาย 89,900 บาท ในงานลดเหลือ 69,900 บาท หน้าร้านใหญ่นั่งทานได้ในห้างหรือปั๊มน้ำมัน เราจัดราคาพิเศษ 399,000 บาท
“t-time จะมีแค่ค่าซื้อแฟรนไชส์ ไม่มีค่าแรกเข้า ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมรายปี ไม่มีการเก็บค่าการตลาด มีทีมงานที่จะจัดอบรมเทรนนิ่งให้กับแฟรนไชส์ซีก่อนที่จะเริ่มขาย เพื่อจะได้เข้าใจเรื่องของสินค้า วิธีการขั้นตอนในการนึ่งอย่างไรให้รสชาติอร่อย คงความสดใหม่ของวัตถุดิบ และไม่เสียคุณค่าทางสารอาหารไป
เราจะมีทีมงานลงไปเซอร์เวย์พื้นที่ให้ในแต่ละสัปดาห์เพื่อดูการขายว่าเป็นอย่างไร จะเข้าไปช่วยแนะนำและปรับวิธีการขาย เพื่อให้แฟรนไชส์ในแต่ละสาขามียอดขายที่เพิ่มมากขึ้น
รวมถึงยุคนี้เป็นยุคออนไลน์ เรามีผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตลาดออนไลน์มาช่วยทำโฆษณาเพื่อโปรโมทในหน้าร้านแต่ละจุดสาขาของแฟรนไชส์ซีของเรา เพื่อเป็นการสร้าง Brand Awareness ให้กับคนในละแวกพื้นที่ 5 กม. 10 กม. ได้รู้จักแฟรนไชส์ t-time ที่มาตั้งในจุดๆ นี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายให้แฟรนไชส์ซีของเราด้วย ซึ่งงบการตลาดการโฆษณาออนไลน์เราทำให้ฟรี เพราะเราต้องการให้ทุกคนที่มาสมัครแฟรนไชส์กับเรา ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน สามารถที่จะขายได้จริง มีกำไรได้จริง มีเงินเหลือเก็บเหลือใช้ได้จริง มีวิถีชีวิตที่ดีขึ้นจริง”
พงศธร กล่าวว่า ยอดขายโดยเฉลี่ยของแฟรนไชส์อยู่ที่วันละ 3,000 บาท ถ้าขายดีอยู่ที่วันละ 5,000-7,000 บาท ตอนนี้จะเริ่มขายแฟรนไชส์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และภาคกลางก่อน เป็นพื้นที่ 50 สาขาแรกในสิ้นปีนี้ เพื่อที่ได้จะวางระบบ วางรากฐานของ t-time แฟรนไชส์ให้มั่นคง และให้แฟรนไชส์ซีของเราทุกคนสามารถที่จะเติบโตแบบยั่งยืน สามารถขายและทำกำไรได้จริง เมื่อ 50 สาขาแรกของเรา ระบบเข้าที่แล้ว เราก็พร้อมขยายกระจายไปยังจุดต่างๆ ทั่วประเทศ
สำหรับหลักคิดทางธุรกิจในช่วงวิกฤตินี้ ทั้งโควิด-19 วิกฤติเศรษฐกิจ รวมทั้งความไม่แน่นอนทางการเมือง พงศธร กล่าวว่า ต้องมองภาพรวมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ตั้งแต่ซัพพลายเออร์ไปถึงลูกค้า อย่างมองแค่จุดๆ เดียว และเราไม่สามารถที่จะทำธุรกิจแบบวินฝ่ายเดียวได้แล้ว แต่ต้องเป็นการทำธุรกิจแบบวิน-วิน ด้วยกันทุกฝ่ายในทุกๆ องค์ประกอบในการขับเคลื่อนธุรกิจของเรา ต้องเดินไปด้วยกัน เติบโตไปด้วยกัน จึงจะรอดไปด้วยกันได้ @
