เปิดประสบการณ์ “เชียงใหม่ไบโอเวกกี้” ฝ่าวิกฤติโควิด “ต้องคิด ปรับตัว” อย่างไร

ภาพจาก Facebook : Bioveggie ทางเลือกใหม่ ของการกินผัก

“เชียงใหม่ไบโอเวกกี้” ฝ่าวิกฤติโควิด ด้วยการขายออนไลน์ เน้นให้บริการลูกค้าด้วยความรวดเร็ว อะลุ้มอล่วยให้คู่ค้า ทำการตลาดแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ลดภาระค่าใช้จ่าย ใช้มาตรการซอฟต์โลน-พักชำระหนี้ ของภาครัฐ

วิริยา พรทวีวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่ไบโอเวกกี้ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงวิกฤติโควิด-19 บริษัทได้รับผลกระทบบ้าง แต่ไม่ถึงกับย่ำแย่ เนื่องจากสินค้าเราเป็นกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพ ทั้งผักอัดเม็ด วิตามินซีกัมมี่ เครื่องดื่มสมุนไพรสูตรมะขามป้อม ผักเชียงดา และตรีผลา รวมทั้งมะนีมะนาว น้ำมะนาวคั้นสด 100% แช่แข็งที่มีนวัตกรรม ไม่มีอันตราย

วิริยา พรทวีวัฒน์

บริษัทมีอัตราการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะเทรนด์ของผู้บริโภคตอนนี้มองเรื่องสุขภาพเป็นหลัก ซึ่งอาหารที่เราทำมีคอนเซ็ปต์คือเป็นอาหารต้านโรค โดยผักอัดเม็ดทำมา 9 ปีแล้ว ส่วนน้ำมะนาวแช่แข็ง ตอนนี้เข้าปีที่ 3 ได้รับผลตอบรับดีมากในกลุ่มธุรกิจโฮเรก้า ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหารใหญ่ๆ หรืออุตสาหกรรมผลิตอาหาร ล่าสุด มะนีมะนาว ได้รับรางวัลจากงาน 7 Innovation Awards ได้เป็นสุดยอดนักประดิษฐ์ในเรื่องสินค้านวัตกรรมด้านเศรษฐกิจ

วิริยา กล่าวว่า เมื่อเกิดโควิด-19 ตอนแรกก็ช็อก เป็นห่วงตัวเรากับครอบครัวพนักงานมากกว่า ว่าเขาจะทำอย่างไร ดูแลสุขภาพอย่างไร เพราะออฟฟิศอยู่อ้อมน้อย แต่โรงงานฐานการผลิตอยู่เชียงใหม่ เราจะสื่อสารอย่างไร ก็มีความกังวล เพราะสายการบินปิดเดินทางไม่ได้ ไม่สามารถไปให้ความรู้ หรือบอกมาตรการต่างๆ ได้

ต่อมาก็ใช้วิธีการคอนเฟอเรนซ์ทางออนไลน์ แจ้งให้พนักงานดูแลเรื่องสุขอนามัยเบื้องต้น ซึ่งก็ไม่กังวลมากนัก เนื่องจากโรงงานผลิตอาหารจะมีมาตรฐานเรื่องความสะอาดอยู่แล้ว พนักงานทุกคนจะต้องใส่แมส ใส่ถุงมือ ใส่หมวก ใส่อุปกรณ์ที่ป้องกันไม่ให้มีการปนเปื้อนกับอาหาร จุดที่ต้องสัมผัสอาหารต้องระวังให้มากๆ เรื่องแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อต่างๆ เราก็ใช้เป็นเรื่องปกติมานานแล้ว ก็ลดความกังวลตรงนั้นไป เพียงแต่เรากังวลเวลาเขากลับบ้าน ไปดูแลครอบครัว ก็ต้องให้ความรู้เขา แล้วเตือนอยู่เสมอว่าการ์ดอย่าตก

“คิดถึงเรื่องคนก่อน ส่วนสินค้าหรือธุรกิจมาอันดับรอง ตอนนั้นเราไม่ได้มองว่าจะให้คนงานหยุด เรายังทำงานต่อไป วันจันทร์ถึงวันเสาร์ ตามปกติเลย ไม่มีการลดค่าแรง ก็อยู่กันเต็มทีม และได้รับพนักงานเพิ่มบ้างเล็กน้อยในช่วงนั้น เพราะหลังโควิดคลี่คลาย ความต้องการสินค้ามีมากขึ้นกลับมาเป็น 100% แล้ว และมีตลาดใหม่มากขึ้น เนื่องจากเราไปออกงานแสดงสินค้าในงาน THAIFEX 2020” วิริยา กล่าว

วิริยา กล่าวว่า หลังมีโควิด-19 เรากลับไปให้ความสำคัญมากๆ กับออนไลน์ เพราะทุกคนก็เปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคหมดแล้ว แทนที่จะต้องออกไปซื้อของ เขาจะสั่งทางออนไลน์เป็นหลัก เราก็เน้นที่การบริการเป็นหลัก สั่งสินค้ามาแล้วต้องส่งให้ทัน โอนเงินมาแล้วต้องรีบส่งสินค้าให้ ตรวจสอบความผิดพลาดก่อนส่ง การโต้ตอบออนไลน์กับลูกค้าที่อินบ็อกซ์เข้ามาถาม ต้องรวดเร็ว เพราะตอบช้าก็เสียโอกาส

“เน้นความรวดเร็วในการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ถ้าไม่ตอบลูกค้าจะหงุดหงิด และไม่ซื้อเลย เพราะเขาผ่านอารมณ์ที่อยากได้สินค้านั้นไปแล้ว ไม่กลับมาแล้ว และไปมองหาสินค้าอื่น เขาใจร้อนมากขึ้นหลังจากมีระบบออนไลน์ ส่วนการขนส่งก็ใช้พันธมิตร อย่างไลน์แมน หรือแกร็บ เป็นแพลตฟอร์มที่เอื้อกัน อาจมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น แต่ทำให้บริการได้รวดเร็วและตรวจสอบได้อย่างแม่นยำ”

ส่วนการบริหารจัดการกับคู่ค้าในช่วงโควิด-19 วิริยา กล่าวว่า เราจะอะลุ้มอล่วยในเรื่องการสั่งสินค้าจำนวนขั้นต่ำจากที่เคยกำหนดไว้ ก็สามารถสั่งน้อยกว่านั้นได้ เรายินดีส่งให้ ด้วยความเห็นอกเห็นใจกันว่าคู่ค้ามีปัญหา เราก็ต้องซัพพอร์ตเขา หรือสินค้ามะนีมะนาว บางรายที่เคยสั่งเยอะ ก็อาจสั่งจำนวนน้อยลง เราก็ส่งให้ในราคาเท่าเดิม เป็นการทำการตลาดแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย

ส่วนการบริหารด้านการเงิน เราก็ต้องลดภาระค่าใช้จ่ายลงไปมากๆ เช่น การสั่งซื้ออะไรจากฟูลสเกล ก็ลดลงมาสัก 50% เรื่องเงินทุนหมุนเวียนในช่วงที่มีปัญหา ก็ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ เป็นซอฟต์โลนรวมถึงเรื่องมาตรการพักชำระหนี้ แทนที่ต้องจ่ายเต็มสเกล ก็ลดลงมา ถือว่าช่วยได้ ทำให้เรายังไปได้

ในการฝ่าวิกฤติโควิด-19 ที่เกิดขึ้น เรื่องแรกคือจะต้องศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยหันมาดูเรื่องสุขภาพเป็นหลัก เพราะฉะนั้นคนที่ทำธุรกิจควรจะต้องมองเรื่องของอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากๆ การใช้สารเคมี การใช้สารปรุงแต่ง การใช้วัตถุกันเสียต่างๆ ขอให้ใช้น้อยที่สุด หรือไม่ใช้เลย ก็จะทำให้สินค้าของเรามีความต้องการที่ยั่งยืน

และสิ่งสำคัญคือเรื่องของความตั้งใจ การส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าที่มาจากใจเรา ถ้าเราผลิตของที่ดี ลูกค้าก็จะสัมผัสได้ และยังคงความภักดีในแบรนด์ของเราอย่างยั่งยืน ส่วนเรื่องช่องทางการจำหน่ายต่างๆ อยากแนะนำให้ดูเรื่องแพลตฟอร์มออนไลน์เยอะแยะที่เข้ามาเป็นพันธมิตรกับเรา ต้องพยายามศึกษา เข้าไปเรียนรู้ เพราะช่องทางการตลาดเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ถ้าเราทำอาหารอะไรก็ดีหมดทุกอย่าง แต่การตลาดไปไม่ได้ ก็จบเหมือนกัน จะอาศัยช่องทางเพียงแค่ไลน์ และเฟซบุ๊ก นั้นไม่พอ ในการจะไปตะโกนให้ลูกค้าและผู้บริโภค ได้เห็นสินค้าเราอย่างชัดเจน จะต้องอาศัยเครือข่ายหลายๆ ส่วน

วิริยา กล่าวว่า บริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยช่วงโควิด-19 ได้มีโครงการร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ เป็นนวัตกรรมมุ่งเป้า เรื่องการทำอาหารสำหรับผู้ป่วยกลุ่มเบาหวาน และผู้ป่วยที่ต้องให้อาหารทางสายยาง ด้วยวัตถุดิบที่เราพัฒนาขึ้นมาที่มีนวัตกรรมเป็นส่วนหนึ่งในการปรุงสูตรอาหารครบถ้วนให้กับผู้ป่วย หรืออาหารลดน้ำหนัก ที่เร็วๆ นี้จะได้รับประทานกันแล้ว

ในส่วนของอาหารสำหรับผู้ป่วย เราได้ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ในการที่จะทดลองกับผู้ป่วยจริงเลย หลังโปรเจ็กต์นี้สำเร็จ ก็สามารถที่จะจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ได้ ซึ่งอาจจะเป็นแบรนด์แรกของประเทศไทย   @

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *