Motor Expo 2020 ผ่านไปครึ่งทาง คนเข้าชมงานเยอะเกินคาด ยอดจองรถทะลุ 20,000 คันแล้ว คาด เงินสะพัดราว 30,000 ล้านบาท ค่ายรถต่างออกแคมเปญดึงดูดใจลูกค้า พร้อมรับโปรโมชั่นชิงรางวัลมากมายจากผู้จัดงาน ปีนี้เพิ่มแพลตฟอร์มออนไลน์ให้เข้าชมงานจากที่บ้านได้
ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37” หรือ Motor Expo 2020 กล่าวว่า ก่อนเริ่มจัดงาน คณะผู้จัดประเมินสถานการณ์ว่าปีนี้อาจต้องปรับลดเป้าหมายต่างๆ ลง ไม่ว่าจะเป็นผู้ชมงาน ยอดจองรถยนต์ ยอดจองรถจักรยานยนต์ โดยคาดว่าน่าจะติดลบจากปีก่อนราว 30% แต่พอตัวเลขผ่านไปครึ่งงาน ปรากฏว่าผิดคาดเนื่องจากคนเข้ามาชมงานจำนวนมากเลย เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ติดลบเพียง 10% เท่านั้น
ปีนี้เรามีมาตรการเข้มข้นในการคัดกรองผู้เข้าชมงานตั้งแต่ประตูทางเข้า มีจุดวัดอุณหภูมิ ต้องสแกนคิวอาร์โค้ดไทยชนะ ผู้เข้าชมงานทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อเข้ามาในบริเวณงานจะมีจุดเจลแอลกอฮอล์เตรียมไว้ให้ทุกประตูทางเข้า รวมถึงแต่ละบูธจะมีจุดเจลแอลกอฮอล์เตรียมไว้ให้ 4-5 จุด
รวมถึงพรีเซนเตอร์หรือพริตตี้ที่มีการแสดงอยู่บนบูธ เราก็ขอความร่วมมือทุกบูธให้ใส่เฟซชิลด์ ตอนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนเวที แต่เมื่อลงมาบริเวณพื้นที่ปกติก็ให้ใส่หน้ากากอนามัยเช่นเดียวกับผู้ชมงาน แล้วยังมีการตรวจตราเรื่องการรักษาระยะห่างในระหว่างการชมงานด้วย มั่นใจได้ว่าการคัดกรองมีความละเอียดถี่ถ้วนมาก
และปีนี้เรามีการพัฒนาระบบแพลตฟอร์มออนไลน์ขึ้นมาควบคู่กัน การจัดงานที่เป็นออนกราวน์ก็จัดเหมือนปกติ เพียงแต่เราเพิ่มเติมในเรื่องของออนไลน์ด้วย เพราะฉะนั้นใครที่สนใจเข้าชมงานก่อนจะมาด้วยตัวเองก็สามารถเปิดออนไลน์ได้ ในนั้นจะเป็นแพลตฟอร์มที่มีการแนะนำสินค้า หรือโปรดักส์ใหม่ๆ ที่จะแสดงในงานเยอะแยะเลย และตัวนี้จะเป็นระบบที่ช่วยคัดกรองว่ารถที่น่าจะอยู่ในความสนใจของท่านมีอะไรบ้าง สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ motorexpo.co.th แล้วเลือกตัวที่เป็นออนไลน์แพลตฟอร์ม ก็สามารถเข้าชมงานจากที่บ้านได้เลย
ชลัทชัย กล่าวว่า ผู้จัดงานได้จัดโปรโมชั่นชิงรางวัลให้ผู้เข้าร่วมชมงานมากมาย ถ้าเข้าไปที่ออนไลน์แพลตฟอร์ม ก็มีสิทธิชิงรางวัลที่เรียกว่าชมงานออนไลน์ชิงรางวัล เพียงแค่ลงทะเบียน ก็มีสิทธิชิงรางวัล Apple Watch SE รุ่นล่าสุด สำหรับคนที่มาชมงานแล้วซื้อบัตรเข้าชมงาน 100 บาท ก็สามารถร่วมแคมเปญที่เรียกว่าซื้อบัตรชิงรถ เป็นเอ็มพี 3 มูลค่า 5 แสนกว่าบาท
แคมเปญสำหรับคนที่จองรถหรือซื้อรถภายในงาน เรียกว่าซื้อรถชิงรถ สามารถชิง BMW Series 2 Gran Coupe มูลค่า 2 ล้านกว่าบาท เรายังมีแคมเปญสำหรับคนที่ซื้อสินค้าภายในงานคือซื้อสินค้าชิงรางวัล จะเป็น MITSUBISHI MIRAGE มูลค่า 5 แสนกว่าบาท สำหรับคนที่เป็นคอบิ๊กไบค์ เรามีแคมเปญที่เรียกว่าซื้อมอเตอร์ไซค์ชิงบิ๊กไบค์ เป็น HONDA รุ่น CB 1000 RS มูลค่า 5 แสนกว่าบาท
ภายในงานยังมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย ทั้งภายในอาคารและภายนอกอาคาร กิจกรรมภายในอาคาร อาทิ กิจกรรมสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 4-5 ขวบ เรียกว่า Skill Driving Junior ที่เราร่วมกับตำรวจจราจรที่มาให้ความรู้อบรมเด็กและเยาวชนเกี่ยวกับการใช้ถนน เรื่องกฎจราจรที่ถูกต้อง กิจกรรม F1 In School เป็นฟอร์มูล่าวันที่เป็นอีสปอร์ต ทดลองขับรถแข่งในสนามจำลอง
ส่วนกิจกรรมภายนอกอาคาร อาทิ มีกิจกรรมที่เป็นลานรถขับเคลื่อนสี่ล้อ เรียกว่า Spirit 4×4 สำหรับคนที่ทดลองนั่งในสถานการณ์ที่จำลองเวลาปีนป่ายขึ้นเนิน เวลาที่รถลื่น ให้เห็นศักยภาพของรถขับเคลื่อนสี่ล้อว่ามีระบบการทำงานอย่างไร แล้วยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
ในงาน Motor Expo 2020 มีบริษัทรถยนต์มาร่วมงาน 31 ยี่ห้อ รถจักรยานยนต์ 21 ยี่ห้อ แต่ละค่ายรถจะทำแคมเปญที่ดึงดูดความสนใจของคนที่กำลังจะซื้อรถ โดยแคมเปญออกมาในช่วงปลายปีจะโดดเด่นกว่าในช่วงเวลาอื่น เพราะเป็นช่วงที่ค่ายรถอยากจะปิดยอด และเป็นช่วงที่แต่ละค่ายแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ เพราะฉะนั้นการที่เขาอยากจะเร่งการขาย ก็ต้องมีแคมเปญโปรโมชั่นที่ดึงดูดความสนใจไม่น้อยกว่าช่วงเวลาอื่น
สำหรับยอดจองรถเมื่อผ่านไปครึ่งงาน ปรากฏว่าตัวเลขดีเกินคาด อยู่ที่ประมาณ 13,000-14,000 คัน เมื่อเทียบกับปีก่อน ลดลงเพียงแค่ 1.6% เท่านั้น จนถึงวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 20,000 คัน ซึ่งเป้าหมายที่เราตั้งไว้ปีนี้อยู่ที่ราวๆ 25,000-30,000 คัน ก็มีความเป็นไปได้สูงที่น่าจะได้ตามเป้าหมาย เพราะยังเหลืออีก 3 วันที่เป็นวันหยุด
จากการที่เราประมาณยอดรถยนต์ 25,000 คัน มอเตอร์ไซค์อีกประมาณ 5,000-6,000 คัน เงินสะพัดน่าจะอยู่ราวๆ 30,000 ล้านบาท และสิ่งที่เราสังเกตได้จากงานนี้คือรถที่ขายดีจะเป็นรถที่เป็นเซ็กเมนต์ รถซิตี้คาร์ อีกส่วนหนึ่งจะเป็นรถครอบครัว ซึ่งเราวิเคราะห์กันว่าคนที่ไม่อยากเดินทางด้วยรถสาธารณะ อาจจะอยากมีรถส่วนตัวสักคันหนึ่งเพื่อใช้เดินทาง เพื่อความปลอดภัย
ส่วนรถครอบครัว อาจเป็นไปได้ว่าช่วงปลายปีนี้ อาจมีการท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น การเดินทางต่างๆ อาจอยากใช้รถส่วนตัวมากขึ้น จึงเป็นเหตุผลทำให้รถสองเซ็กเมนต์นี้ได้รับความนิยมภายในงาน
ภายในงาน ยังมีรถที่เป็นพลังงานทางเลือกมาแนะนำเข้าสู่ตลาด คือรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นรถไฟฟ้า 100% ถึง 12 รุ่น ซึ่งงานปีก่อนๆ ไม่เยอะขนาดนี้ รวมถึงรถปลั๊กอินไฮบริด ที่มีทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่ในรถคันเดียวกัน ก็มีแนะนำในงานหลายรุ่น ถือเป็นแนวโน้มของรถในอนาคต ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมงานได้จนถึงวันที่ 13 ธ.ค.นี้ @