NSI นำสินประกันภัย ก้าวสู่ยุค ‘ดิจิทัล’ รับเทคโนโลยี ดิสรัปชั่น หันมาใช้ e-Receipt, e-Tax เพื่อลดการใช้กระดาษ ลดการสัมผัส หลังเกิดโควิด-19 ปรับการทำงานให้กระชับ ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า พร้อมจัดทำแอปพลิเคชั่น NSI Service เพื่อความสะดวก รวดเร็ว เพิ่มความพึงพอใจให้ผู้ใช้บริการ
สมบุญ ฟูศรีบุญ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท นำสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เดิมไม่คิดว่าบริษัทจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากขนาดนี้ ธุรกิจของบริษัทที่ทำรับประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจเป็นหลัก ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ติดลบไปเกือบ 6% ของยอดขาย เพราะกรณีลูกค้าที่เป็นรถบรรทุกเชิงพาณิชย์บางราย อาจมีจำนวนการวิ่งหรือเที่ยวลดน้อยลง ส่วนกรณีลูกค้าส่วนบุคคลเคยซื้อกรมธรรม์ประเภท 1 ก็เหลือเป็นกรมธรรม์ประเภท 3
ผลประกอบการ 9 เดือนของบริษัท ภาพรวมค่อนข้างดี เป็นที่พอใจ บริษัทมีกำไรสุทธิเกือบ 140 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 9 เดือนของปี 2562 ก็โตขึ้นมาเกือบ 60-70 ล้านบาท เนื่องจากผู้ประกอบการเคยมีจำนวนเที่ยวที่วิ่ง 100% ปัจจุบันอาจเหลือ 70-80% ซึ่งจำนวนเที่ยวที่น้อยลง ทำให้ความเสี่ยงหรืออัตราความถี่ของการเกิดอุบัติเหตุก็จะลดลงตามไปด้วย
สำหรับปี 2564 ถ้ารัฐบาลสามารถจัดสรรหาวัคซีนเพื่อมาป้องกันโควิด-19 ได้ ความรู้สึกของผู้บริโภคน่าจะดีขึ้น เพราะมีความมั่นใจขึ้นว่าธุรกิจคงจะกลับมาแน่ แต่ถ้ายังไม่มีอะไรที่ชัดเจนในเรื่องของวัคซีน ตนเองมองว่าบริษัทดีขึ้นแน่ แต่อาจไม่ได้เท่าตามที่คาดหวังไว้ โดยบริษัทวางเป้าว่าในปี 2564 จะต้องขยายตัวให้ได้ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมียอดขายให้ได้ 2,500 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตกว่า 10%
เพราะในวิกฤติก็มีโอกาส อยู่ที่ว่านักธุรกิจหรือผู้ประกอบการมองอย่างไร ถ้าเรามองเพื่อหาโอกาส ก่อนอื่นเราต้องคิดในเชิงบวกก่อน ไม่ใช่ท้อถอย เห็นอะไรก็เป็นปัญหา ตนเองมองว่าสามารถเติบโตได้ เพียงแต่เราต้องใส่ความพยายามเข้าไป ทำงานกันเป็นทีม กระบวนการในการทำงานก็ต้องมีการ Reprocessing ใหม่ เพื่อให้กระบวนการทำงานกระชับ และตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้ประกันภัยได้
อย่าลืมว่าธุรกิจประกันภัยจะเติบโตหรือไม่เติบโต ก็อยู่ที่เราตอบสนองต่อความต้องการของผู้ประกันภัยได้มากน้อยแค่ไหน เวลาที่รถประกันเกิดอุบัติเหตุ ถ้าเราไปถึงที่เกิดเหตุเร็ว เราพิจารณาเรื่องค่าสินไหมได้รวดเร็ว บรรเทาความเดือดร้อนให้กับบุคคล หรือผู้บาดเจ็บ หรือผู้เสียหายได้ทันท่วงทีในช่วงเวลาที่เหมาะสม ขณะเดียวกันก็พิจารณาชดใช้ค่าสินไหมด้วยความเป็นธรรม สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวตอบโจทย์ของบริษัทว่าเราจะไปถึง 2,500 ล้านบาทได้หรือไม่
สมบุญ กล่าวว่า โปรดักส์ใหม่ที่บริษัทออกไปแล้ว คือกรมธรรม์ประเภทพลัส ที่เราเรียกว่า เบ๊าเบา ซึ่งจะสามารถซื้อเป็นไตรมาสได้ สมมติว่าช่วงนี้ผู้เอาประกันภัยอาจมีความเสี่ยงสูง ก็ซื้อช่วงนี้เป็น 3 เดือนก็ได้ เบี้ยประกันตกเพียงพันกว่าบาทเท่านั้น และปีหน้า เราก็มีกรมธรรม์ที่เป็นโปรดักส์ใหม่ ขณะนี้ได้ยื่นขอไปที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) แล้ว เป็นกรมธรรม์ที่แตกต่างจากที่เคยมี เข้ากับยุคสมัย สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ ซึ่งน่าจะทราบคำตอบภายในไตรมาส 1 ของปี 2564
และหลังจากเกิดโควิด-19 บริษัทมีการประชุมหารือทีมงานและผู้บริหาร ให้ลดการสัมผัสกับผู้บริโภคลง โดยมีการออกกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า e-Policy ไม่ต้องใช้กระดาษ สามารถส่งข้อมูลไปได้ทางมือถือ ต่อไปจะมี e-Receipt เป็นใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ และ e-Tax ที่สามารถไปยื่นต่อกรมสรรพากรได้ ซึ่งทั้ง 3 อย่างจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมมาก เพราะลดการใช้กระดาษ ลดการสัมผัสลด และทำให้กระบวนการทำงานของบริษัทเร็วขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังทำแอปพลิเคชั่น NSI Service ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้เอาประกันภัย เวลาไปเกิดอุบัติเหตุที่ใด ก็สามารถแจ้งจุดเกิดเหตุได้ทันที โดยปักหมุดลงบนแอปฯ ได้ และกรณีที่ผู้เอาประกันภัยต้องการจะทำประกันภัยภาคสมัครใจประเภท 1 เดิมต้องมีการนัดหมายในการตรวจสภาพรถยนต์ แต่หากโหลดแอปฯ นี้แล้ว สามารถใช้กล้องถ่ายรูป แล้วโหลดส่งมาที่บริษัท เมื่อบริษัทเห็นภาพของรถเอาประกันภัยก็จะวิเคราะห์ได้ว่าทุนประกันควรจะเป็นเท่าไร ทำให้รับประกันและสามารถเริ่มให้ความคุ้มครองได้เลยทันที เป็นการประหยัดเวลา ขณะเดียวกันบริษัทก็ลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายลด ทำให้บริษัทสามารถลดค่าเบี้ยประกันลงได้
ตอนนี้บริษัทกำลังพัฒนาแอปฯ เฟส 2 กรณีเกิดอุบัติเหตุ ผู้เอาประกันสามารถถ่ายรูปบริเวณความเสียหายของตัวรถ ส่งผ่านแอปฯ ไปยังบริษัทได้ โดยไม่ต้องรอพนักงานเคลมออกไปตรวจสอบ ส่วนผู้ประกอบการอู่รถ ก็สามารถถ่ายภาพความเสียหายของรถ ส่งมาให้บริษัทประเมินความเสียหายได้ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว และเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย คาดว่าแอปฯ เฟส2 น่าจะเสร็จในไตรมาส 1 ปี 2564
สำหรับใครที่จะเดินทางในช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้ สมบุญ กล่าวว่า ควรตรวจสภาพรถให้เรียบร้อย ตรวจสอบว่าภาษีรถยนต์ขาดหรือไม่ กรมธรรม์ พ.ร.บ.ขาดหรือไม่ หรือถ้าไม่มี ก็แนะนำให้ซื้อ ถ้าใครมีความสามารถก็ซื้อประเภท 1 ถ้ามีกำลังน้อยก็แนะนำให้ซื้อประเภท 3 หรือถ้ามีกำลังเพิ่มขึ้นนิดหนึ่ง ก็ซื้อพวกตระกูลพลัส ซึ่งนำสินประกันภัยมีกรมธรรม์เบ๊าเบา ทั้งนี้ เพื่อไว้คุ้มครองบรรเทาความเสี่ยงภัย เพื่อบริหารความเสี่ยงของตนเอง เวลาเกิดเรื่องไม่คาดฝัน ก็จะมีกรมธรรม์ประกันภัยเข้ามาช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ตัวผู้ประกันภัย
@