การวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกต้องจาก Big Data จะทำให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ปัจจุบันแพลตฟอร์มที่ใช้เก็บข้อมูลเป็นของต่างชาติ ยังไม่มีแพลตฟอร์มของคนไทย ซึ่งรัฐบาลควรสนับสนุนภาคเอกชน เพื่อทำให้แพลตฟอร์มดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะธุรกิจที่เกี่ยวกับข้อมูลจะเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยเติบโตอย่างแท้จริง
ชนะ สุพัฒสร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทลลิจิสต์ จำกัด กล่าวว่า อินเทลลิจิสต์ต้องการเป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับการบริหารจัดการข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นแพลตฟอร์มที่นำเสนอข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อภาครัฐ เอกชน และผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายใหญ่ เราต้องการเป็นแพลตฟอร์มที่ให้คนรุ่นใหม่เข้ามาใช้เทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น Big Data , AI (Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์) และ Machine Learning ที่กำลังเป็นที่้ต้องการของตลาดโลก เพื่อพัฒนาขุมปัญญาให้เศรษฐกิจไทยสามารถแข่งขันกับชาวโลกได้
บ้านเราทุกวันนี้มีการสร้างข้อมูลอยู่ตลอดเวลา เราเป็นผู้บริโภคข้อมูล เป็นยูสเซอร์ที่ใช้เฟซบุ๊ก ใช้ไอจี ติดอันดับโลก แต่เราไม่มีแพลตฟอร์มเป็นของตัวเอง ทั้งหมดเป็นของต่างชาติ ซึ่ง Big Data คือการเก็บรวบรวมข้อมูลจากโซเชียลเน็ตเวิร์ค จากแอปพลิเคชั่น จากสื่อ หรือการทำงานทุกๆ อย่างของเราในแต่ละวัน จนเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่
Data analytics คือการวิเคราะห์ข้อมูลจาก Big Data ทำให้เราเริ่มรู้พฤติกรรมต่างๆ ของแต่ละคนว่าชอบอะไร ทำให้เกิดเป็นข้อมูลเศรษฐกิจ เมื่อเราทราบและสามารถจัดจำหน่ายสินค้าได้ตรงใจผู้บริโภค ก็จะเกิดกระบวนการอีคอมเมิร์ซตามมา
Data science คือ วิทยาศาสตร์ข้อมูล เนื่องจากทุกวันนี้เรื่องการศึกษาจะแตกต่างจากสมัยก่อนมาก Data science จะรวมไปถึงคนที่ต้องเก่งด้านคอมพ์พิวเตอร์สกิล คณิตศาสตร์สถิติ และเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
Machine Learning คือ การทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองจากข้อมูลที่มีอยู่ เช่น เซ็นเซอร์ต่างๆ ที่อยู่ในรถ เมื่อถึงจุดหนึ่งจะแจ้งเตือนเราเรื่องเติมลม หรือเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
Deep learning ถ้าเรามีหนังสือเล่มหนึ่ง หรือรูปภาพหนึ่ง ถ้าคนเห็นก็จะรู้ว่าเป็นรูปอะไร ถ้าเป็นแฟ็กซ์หรือสแกนเนอร์สมัยก่อน ก็จะได้รูปภาพมา แต่คอมพิวเตอร์จะไม่รู้ว่าคือรูปอะไร แตกต่างจาก Deep learning ที่จะรู้ว่าคืออะไร และจะจดจำได้โดยไม่ลืม
ชนะ กล่าวว่า วันนี้ธุรกิจสตาร์ทอัพจะมุ่งไปที่ Digital Asset ซึ่งเป็น Asset ที่ไม่มีตัวตนแต่มีมูลค่าสูง เช่น แกร็บ หรืออูเบอร์ ที่ให้บริการแท็กซี่โดยที่ไม่มีอู่ เป็นวิธีคิดของธุรกิจสมัยใหม่ ยิ่งในยุค New Normal ที่เราไม่ได้เจอกัน ไม่มีคนกลาง ตรงจุดนี้เป็นจุดที่สำคัญในการที่เราสามารถบริหารจัดการได้ตรงจุดตรงประเด็น
สำหรับการทำให้ประเทศไทยขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยข้อมูลนั้น ต้องเริ่มต้นจากภาพใหญ่คือภาครัฐ ซึ่งเขามีบริการให้ข้อมูลอยู่ โดยเข้าไปดูได้ที่ data.go.th ตรงนั้นจะมี 700-800 ซอร์ส เพียงแต่เราจะเอาข้อมูลมาทำอะไร เราอยากจะวิเคราะห์อะไร เช่น ลูกค้าบริษัทตนเองเป็นเชนทางด้านซ่อมรถขนาดใหญ่ สิ่งที่เขาอยากได้คืออยากทราบว่าอายุการใช้งานรถนั้นกี่ปี เพราะยิ่งรถเก่าเขาก็มีโอกาสขายวัสดุอุปกรณ์อะไหล่ได้มากขึ้น และข้อมูลต่างๆ เหล่านี้จะลงลึกไปถึงว่าเขาควรจะเปิดสาขาที่ไหน เปิดโชว์รูมที่ไหน
การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจด้วยข้อมูลนั้น ภาครัฐต้องปรับตัว อย่างแรกสุด เราไม่มีแพลตฟอร์มดังๆ ที่เป็นของคนไทย ดังนั้น ภาครัฐควรจะให้การสนับสนุนภาคเอกชน โดยที่ภาครัฐทำหน้าที่กำกับดูแล เพื่อให้เกิดแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งเราสามารถดูโมเดลจากประเทศจีนแล้วนำมาประยุกต์ใช้ได้ และภาครัฐควรสนับสนุนเรื่องการศึกษา สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะทำให้บ้านเมืองของเราเกิดการใช้อย่างมูลอย่างกระจาย แล้วถ้าวันหนึ่งเราเกิด Digital Asset ขึ้นมา ประเทศเราก็จะเปลี่ยนไป
ตนเองคิดว่าภารกิจขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยข้อมูล เป็นหน้าที่ของคนรุ่นใหม่ ที่จะช่วยนำแพลตฟอร์มมาสร้างธุรกิจของคนไทย ถ้าเกิดขาดการสนับสนุนทางด้านแพลตฟอร์ม เครื่องมือ หรือความรู้ ก็สามารถติดต่อมาที่บริษัทอินเทลลิจิสต์ได้เลย โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ ขอให้ลงมือทำทันที ตนเชื่อว่าธุรกิจที่เกี่ยวกับข้อมูลจะเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศเราเติบโตอย่างแท้จริง
ชนะ กล่าวว่า นอกจากทำทางด้านธุรกิจแล้ว ตนเองมีเป้าหมายที่สำคัญอันหนึ่ง คือปีหน้าจะเปิดโครงการชื่อว่า อินเทลลิจิสต์ ยูนิเวอร์ซิตี้ เราจะสอนวิชาทางด้าน Big Data , Data science , AI , Machine Learning ซึ่งเรามีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยต่างๆ อยู่ ก็จะเป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เราต้องผลิตบุคลากรเพราะปัจจุบันยังมีน้อยมาก ตนเองคิดว่าข้อมูล หรือ Digital Asset ถือว่าเป็นสมบัติของประเทศไทย และเรื่องหนึ่งที่ถือว่าเป็นเป้าหมายในชีวิตของตนคือเรื่องภาษาไทย ที่จะต้องทำ Deep learning ให้อ่านภาษาไทยเก่งกว่าฝรั่งให้ได้ เพราะเป็นสมบัติของประเทศเรา @