“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ แทบไม่ส่งผลกระทบกับธุรกิจที่เราทำอยู่ เพราะเราทำธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว บนพื้นฐานของสินค้าที่มีคุณภาพ”
“ประภาภรณ์ จูรบูรณ์” รองกรรมการผู้จัดการ บจก.โอ.ที.แมชชีนเนอรี่และเจ้าของน้ำมะพร้าวแบรนด์ “สวนพร้าว” กล่าวตอบคำถามถึงผลกระทบจากวิกฤติโควิดในช่วงนี้
ประภาภรณ์ ทำธุรกิจฮาร์ดแวร์ค้าส่งเครื่องมือช่างทุกประเภท โดย สามีเป็นผู้บุกเบิกมาเมื่อ 35 ปีที่ผ่านมา โดยจำหน่ายเครื่องมือช่างทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นช่างซ่อมบ้าน ซ่อมรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ และปัจจุบันขยายกิจการจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้าง เกือบทุกชนิด ยกเว้นหินดินทรายปูน อีกด้วย มีสำนักงานตั้งอยู่สี่พระยา กรุงเทพฯ มีฐานลูกค้าเหนียวแน่น
ปัจจุบัน แม้มีวิกฤติ แต่กิจการก็ยังไปได้เรื่อยๆ ไม่มีผลกระทบมาก เพราะบริษัททำธุรกิจแบบไม่ก้าวกระโดด ค่อยเป็นค่อยไป ตั้งแต่แรกเริ่มบุกเบิกจนถึงขณะนี้ โดยยึดหลักบนพื้นฐานของสินค้าที่มีคุณภาพ มีบริการหลังการขาย หากสินค้าซื้อไปแล้วมีปัญหา ก็จะสามารถมาคืนหรือเปลี่ยนใหม่โดยมีหน้าร้านไว้บริการ
“คือเราเน้นรักษาลูกค้าเก่า จึงมีลูกค้าประจำเยอะ ตั้งแต่ระดับ บริษัทมหาชน ไปจนถึงร้านเล็กร้านน้อย” ประภาภรณ์กล่าวและว่าแม้จะมีภารกิจมากในหน้าที่การงาน แต่ขณะเดียวกันก็เป็นผู้ใฝ่ศึกษาทางธรรมะด้วย
“ดิฉันเป็นคนไม่ค่อยมีอดีตไม่ค่อยมีอนาคต เป็นคนกลวงๆ คือไม่ยึดติด เมื่อจะให้ทานเราก็ให้ทาน จะเจอธรรมะก็เจอไม่ได้ถึงขั้นต้องไปแสวงหา เป็นแบบนี้ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นแล้ว เราจะสัมผัสได้เองว่าเมื่อเราทำอะไรเรารู้สึกเรามีความสุข พอมีครอบครัวสามีก็เป็นคนน่ารัก เขาบอกประโยคหนึ่งว่า ถ้าอยากได้อะไร เราต้องให้เขาก่อน การให้ จึงเป็นสิ่งที่ปฎิบัติกันเสมอๆ ส่วนเรื่องการปฏิบัติธรรม ทำสมาธิ เป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัว ดิฉัน คือไม่ต้องไปแสวงหาแต่มันเข้ามา และเราสัมผัสได้”
จากการไปปฏิบัติธรรม ที่ “บ้านสวรรค์บนดิน” ทำให้ “ประภาภรณ์” มีความศรัทธา มีความคิดเรื่องการสร้างศาลาปฏิบัติธรรม โดยได้แรงบันดาลใจจากคุณแม่ที่สอนการทำสมาธิ ท่านเปรยว่าอยากให้ช่วยกันสืบทอดพระพุทธศาสนา จากวันนั้นก็เลยคิด ว่า อยากจะผลิตน้ำมะพร้าวขาย เพราะได้ซื้อสวนมะพร้าวไว้ที่ อ.เมือง จ.เพชรบุรี เนื้อที่ 30 ไร่ และมะพร้าวออกผลจำนวนมาก จึงตั้งใจว่าน้ำมะพร้าวที่ได้จากสวนแห่งนี้ จะขายเพื่อนำรายได้มาสร้างศาลาปฏิบัติธรรมโดยไม่หักค่าใช้จ่าย
“ที่ผ่านมาผลผลิตมะพร้าวเรามีมาก ก็นำมาแปรรูปบรรจุขายในแบรนด์ว่า “สวนพร้าว” ซึ่งมาจากชื่อ “สวนมะพร้าวเมืองเพชร” เริ่มต้นขายทางเฟซบุ๊คก่อนและส่งให้เพื่อนๆ ชิมกัน กคนบอกอร่อยเหมือนดื่มจากน้ำในลูกมะพร้าวสดๆ ซึ่งนั่นก็เพราะน้ำมะพร้าวแบรนด์สวนพร้าว เป็นน้ำมะพร้าว 100% ไม่ผสมอะไรเลย เพื่อนถามว่าใส่อะไรเข้าไปหรือเปล่า ดิฉันจึงบอกไปว่า ใส่ “ใจ” เข้าไป ถึงอร่อย”
ประภาภรณ์ ลงทุนผลิตน้ำมะพร้าว “สวนพร้าว” เอง ตั้งแต่ค่าขวด ค่าผลิต ค่าส่ง รายได้แยกบัญชีออกจากกิจการของบริษัท รายได้ ไม่หักค่าใช้จ่าย เพื่อสะสมไปสร้างศาลาปฏิบัติธรรม โดยเล็งพื้นที่ว่าง ข้างๆ สวนมะพร้าว มีเนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ โดยจะสร้างศาลาปฏิบัติธรรม ที่พัก ห้องน้ำ เพื่อให้ผู้มาปฏิบัติได้พักค้างคืนได้
สำหรับ “สโลแกนของน้ำมะพร้าว “สวนพร้าว” คือ “ดุจดั่งดื่มจากผล” เป็นไอเดียของลูกชายสองคนที่ช่วยคิด ตั้งแต่ออกแบบผลิตภัณฑ์ สติ๊กเกอร์ โลโก้ ติดข้างขวด เพื่อให้ลูกๆ มีส่วนร่วม
ส่วนช่องทางการขาย น้ำมะพร้าว “สวนพร้าว” เริ่มต้นฝากขายที่ร้านค้าในสนามกอล์ฟกรุงเทพกรีฑา และยังมีจำหน่ายที่ร้าน Green Story ที่ The Street รัชดา ที่ AEC Trade Center หรือ พันธุ์ทิพย์พลาซ่าเก่า
ขณะเดียวกัน สามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ ในเขตกรุงเทพฯ สั่งซื้อ 12 ขวดขึ้นไป ส่งฟรี ราคาจำหน่ายขวดละ 30 บาท สั่งซื้อทางไลน์ได้ที่ @SuanPhrao และ ที่ https://web.facebook.com/suanphrao
“ในอนาคต เราวางแผนจะส่งออกไปต่างประเทศ แต่ยังทำวิจัยอยู่ว่าจะทำอย่างไร ให้น้ำมะพร้าวมีความอร่อย ไม่เปลี่ยนรสชาติในเวลา 2 ปี”
เมื่อถึงวันนั้น น่ามีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นกอบเป็นกำ นำมาสร้างศาลาปฎิบัติธรรมได้ดั่งใจหวัง!!