บสย. “คิกออฟ” มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจับมือกระทรวงการคลัง – ธนาคารแห่งประเทศไทย ค้ำประกัน สินเชื่อฟื้นฟูเพื่อผู้ประกอบการธุรกิจ “กู้ได้เท่าไหน ค้ำฯ ให้เท่านั้น” เดินหน้าเฟสแรก 100,000 ล้านบาท
นางวสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์ รักษาการผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ประกาศ “คิกออฟ” เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยจับมือกับกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อช่วยผู้ประกอบการธุรกิจ ผ่านกลไกค้ำประกันสินเชื่อ “โครงการค้ำประกันสินเชื่อตามพระราชกำหนดให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2564”
วงเงินเฟสแรกจำนวน 100,000 ล้านบาท และจะเพิ่มในเฟสต่อไปอีก 150,000 ล้านบาท รวมเป็นวงเงินทั้งโครงการ 250,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ทีมงาน บสย. ทุกส่วนงานพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนมาตรการเต็มที่ สามารถรับคำขอจากสถาบันการเงินและเริ่มอนุมัติหนังสือค้ำประกันสินเชื่อได้ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2564 เป็นต้นไป
รักษาการผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม กล่าวด้วยว่า การค้ำประกันสินเชื่อในโครงการนี้ มีความแตกต่างจากโครงการเดิมๆ ที่ผ่านมา และเป็นครั้งแรกที่ บสย. ใช้กลไกการค้ำประกันสินเชื่อ ภายใต้ พ.ร.ก. ฟื้นฟูสินเชื่อ ฉบับใหม่ เพื่อร่วมปลดล็อกข้อจำกัดการเข้าถึงสินเชื่อ เพิ่มความมั่นใจให้สถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อ
โดยเพิ่มสัดส่วน Max Claim สูงถึง 40% ซึ่งสูงกว่าโครงการก่อนหน้านี้ คือ โครงการ บสย. SMEs ไทยสู้ภัยโควิด 2 ซึ่ง Max claim 35% การเพิ่มสัดส่วน Max Claim ครั้งนี้ ก็เพื่อช่วยให้ธุรกิจ เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายและรวดเร็ว เพื่อช่วยอำนวยประโยชน์ต่อการเข้าถึงสินเชื่อให้มากที่สุดในช่วงสถานการณ์ Covid-19
สำหรับเงื่อนไขในโครงการนี้ สรุปได้ดังนี้
1.ค้ำประกันเต็มพิกัด “กู้ได้เท่าไหน ค้ำประกัน ให้เท่านั้น” และค้ำประกันทุกราย เป็นระยะเวลาสูงสุด ถึง10 ปี
2.วงเงินค้ำประกันเฟสแรก 100,000 ล้านบาท วงเงินรวม 250,000 ล้านบาท สิ้นสุด 9 ตุลาคม 2566
3.ค่าธรรมเนียมค้ำฯ ร้อยละ 1.75 ต่อปี ในปีที่ 1 และ 2 โดยในปีที่ 3-6 คิดค่าธรรมเนียมค้ำฯ ร้อยละ 1 ต่อปี ในปีที่ 7 คิดร้อยละ 1.25 และปีที่ 8-10 คิดค่าธรรมเนียมค้ำฯ ร้อยละ 1.75 ต่อปี (รัฐบาลสนับสนุนค่าธรรมเนียม รวมร้อยละ 3.5)
4.วงเงินค้ำประกันสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 150 ล้านบาทต่อรายต่อสถาบันการเงิน
ทั้งนี้ ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันท ทาง บสย. ได้มีการปรับแผนศูนย์ F.A. Center แต่เดิม ผู้ประกอบการสามารถเข้าไปปรึกษาที่ศูนย์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ถนนพหลโยธิน ชั้น1 อาคาร SME D Bank Tower มาเป็นรูปแบบการให้คำปรึกษาแบบออนไลน์ โดยผู้ประกอบการ SMEs สามารถใช้บริการ โดยลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้าเพื่อนัดหมาย โทร. 065-507-8999, 065- 5 502-6999 หรือจะ inbox เข้ามาที่ http://facebook.com/ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน-SMEs-106920414394158