ธุรกิจใหม่ที่กำลังมาแรง สำหรับอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของใบกัญชา ที่ตอบรับกับกระแสกัญชาฟีเว่อร์ หลังจากที่รัฐบาลปลดล็อกส่วนของกัญชา และกัญชงให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้โดยไม่จัดเป็นยาเสพติด ยกเว้นช่อดอก และเมล็ดกัญชา
ล่าสุดมีโมเดลธุรกิจ เกี่ยวกับแฟรนไชส์เครื่องดื่มผสมใบกัญชา ภายใต้ชื่อ “Cafe’ Chakan” โดยเป็นไอเดียธุรกิจของ คุณธฤษณุ กุลเดชาธนโชติ ประธานกรรมการ บริษัท คาเฟ ชากัญ จำกัด ซึ่งมีความน่าสนใจในวิธีคิด และกลยุทธ์ ตลอดจนการลงมือทำอย่างรวดเร็ว และปรากฏผลลัพธ์ให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน
สัมภาษณ์ : คุณธฤษณุ กุลเดชาธนโชติ ประธานกรรมการ บริษัท คาเฟ ชากัญ จำกัด โดย ดร.นงค์นาถ ห่านวิไล
ดร.นงค์นาถ : ที่มา ที่ไป ของแฟรนไชส์เครื่องดื่ม “คาเฟ ชากัญ” เริ่มต้นอย่างไร
คุณธฤษณุ : อย่างที่หลายท่านทราบ ช่วงนี้เป็นช่วงกัญชาฟีเวอร์ ผมศึกษาเรื่องกัญชามาเป็นระยะเวลาพอสมควรตั้งแต่รัฐบาลเริ่มปลดล็อคช่วงแรกๆ และมาชัดเจนช่วงหลังสุดที่ปลดล็อคชิ้นส่วนกัญชาที่ไม่ใช่ยาเสพติดให้โทษ สามารถนำมาใช้ประกอบอาหารและเครื่องดื่มได้
ดร.นงค์นาถ : กิ่ง ต้น ราก ใบ ใช่ไหม
คุณธฤษณุ : ใช่ เริ่มต้นจากช่วงโควิดรอบ 2 ประมาณปลายเดือนธันวาคม ผมเป็นเจ้าของอาหารร้านครัวสะตอ ระยอง ก็มีคำสั่งให้ร้านปิดบริการชั่วคราว ผมและทีมงานก็ว่าง และในจังหวะที่พรรคพวกอยู่ที่แม่โจ้ ก็บอกว่าช่วงนี้รัฐบาลปลดล็อคแล้ว สามารถนำชิ้นส่วนกัญชาที่ไม่ใช่สารเสพติด เช่น ใบ นำมาทำอาหารได้ ผมก็สั่งกัญชามาไว้ 10 กิโลกรัม เตรียมไว้ใช้สำหรับทำอาหาร
กระทั่งช่วงหลังปีใหม่ แล้วยังไม่ทราบว่าร้านจะเปิดได้เมื่อไหร่ ก็เลยเอากัญชาที่มีไว้ในสต็อกมาทดลองทำเมนูเครื่องดื่มกันในครอบครัว ทำไปก็ชวนเพื่อนมาชิมบ้าง ทุกคนบอกว่าอร่อย ตอนนั้นกฎหมายปลดล็อค100% เราก็เลยเช่าบูธชั่วคราวของห้างเซ็นทรัล ระยอง เปิดขายอยู่ประมาณ 10 กว่าวันลูกค้าเข้าแถวทุกวันขายไม่ทัน เห็นว่ามันเวิร์คเลยไปเช่าบูธต่อที่ห้างแหลมทอง ระยอง ก็ขายดีมาก จึงคิดกับครอบครัวว่าเราเปิดแฟรนไชน์ดีกว่า แล้วเริ่มขายแฟรนไชน์มาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2564
ดร.นงค์นาถ : มีทุนเดิมตรงที่ว่าทำร้านอาหารอยู่แล้วเลยมีฝีมือปรุงอาหารเครื่องดื่มต่างๆ เหมือนเป็นการพลิกวิกฤติเป็นโอกาส มีวิกฤติจากโควิดที่ทำให้ร้านอาหารอาจจะไปต่อลำบาก เพราะบางช่วงล็อคดาวน์ ห้ามนั่งรับประทาน ตอนนั้นระยองเรียกได้ว่าแรงเหมือนกันสำหรับการระบาดในช่วงแรก เลยทำให้คิดค้น “คาเฟ ชากัญ” และต่อยอดมาเป็นการเปิดและขายแฟรนไชน์ แล้วกระบวนการต่างๆ ต้องผ่านหน่วยงานไหนอย่างไรบ้าง ต้องทำอย่างไรให้ถูกต้องตามกฎหมาย
คุณธฤษณุ : คำว่า “กัญชา” ภาพรวมตอนนี้ยังถือว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 อยู่ แยกได้เป็น 2 ส่วน ส่วนที่เป็นยาเสพติด คือ ช่อดอก หน่วยงานของรัฐที่สามารถนำเอาไปใช้ได้ภายใต้การอนุญาต เช่น กรมการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัย หรือศูนย์วิจัยต่างๆ จะเก็บช่อดอกซึ่งเป็นส่วนของยาเสพติดให้โทษไว้
ประชาชนทั่วไปเราใช้ไม่ได้ เราใช้ได้เฉพาะส่วนที่ 2 คือ ส่วนที่ไม่ใช่เป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 จะมี ต้น ใบ ราก ของผมอยู่ในส่วนที่ไม่ใช่ยาเสพติด แต่เวลาใช้ก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุม อย่างเช่น เอามาทำร้านอาหาร เครื่องปรุง food&drink หรือทำอย่างอื่น ก็ต้องแสดงเอกสารที่ชัดเจน ตรวจสอบได้ ว่ากัญชามาจากแหล่งที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ของผมมาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และก็มีจากในส่วนมหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่มีใบอนุญาตให้ปลูกและจำหน่าย
ดร.นงค์นาถ : สำหรับเครื่องดื่มกัญชาที่ว่านี้ใช้ส่วนของใบใช่ไหม
คุณธฤษณุ : เราใช้ใบกัญชา100% คัดจากแหล่งที่สะอาด ถูกต้อง นำมาอบ คัดสรรอย่างดีก่อนที่จะนำมาบรรจุซองชงให้ลูกค้าดื่ม เพราะฉะนั้นสรรพคุณและประโยชน์ของใบกัญชาเรายังสมบูรณ์100% ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนถ้าดื่มแล้ว คือ มีส่วนช่วยให้นอนหลับดีขึ้นและช่วยให้เจริญอาหาร
ดร.นงค์นาถ: ต้องผ่าน อย. ด้วยใช่ไหม
คุณธฤษณุ : อย.กำหนดไว้ว่าผลิตภัณฑ์อะไรก็แล้วแต่ กัญชาไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเครื่องดื่ม ยารักษาโรค ในกรณีที่ไม่ได้ขายสด ไม่ได้ชงสด หรือบรรจุแบบปิดฝาสนิทจะต้องขออนุญาตจาก อย.ก่อนออกจำหน่าย ส่วนของเราไม่ต้องผ่านการขออนุญาตจาก อย. เพราะว่าเราขายสด และกัญชาไม่ได้บรรจุแบบปิดฝาสนิทแล้วลูกค้าเอาไปชงเองที่บ้านได้ เราต้องผ่านกระบวนการชงสดจากร้านหรือสาขาเราเท่านั้น ลูกค้าไม่สามารถซื้อกัญชาไปเก็บที่บ้านแล้วชงเองได้ ทาง อย.อนุญาตให้ขายสดพร้อมดื่มได้ทันทีเท่านั้น เปรียบเทียบได้กับร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านชา กาแฟสด พวกนี้ก็ไม่ต้องขอ อย.
ดร.นงค์นาถ : โมเดลธุรกิจที่เป็นแฟรนไชน์ รายละเอียดและเงื่อนไขเป็นอย่างไร
คุณธฤษณุ : แฟรนไชน์สินค้าเรามีอยู่ 2 เซ็ต เซ็ตแรกเป็นแฟรนไชน์ชาชงสดพร้อมดื่ม ราคา 69,000 บาท และทางบริษัท “คาเฟ ชากัญ” มีอุปกรณ์ให้ครบ สามารถชงขายได้ทันที พร้อมคอร์สอบรม พร้อมสูตร 1 ชั่วโมง ฟรีวัตถุดิบใบกัญชาแท้เกรดพรีเมียมมูลค่า5,000 บาท หมายความว่าจ่าย 69,000 บาท แล้วสามารถเปิดร้านขายได้ทันทีเลย 200 แก้ว เมื่อขายหมด 200 แก้ว ไม่ต้องเสียค่าแฟรนไชน์หรือค่าสมาชิกเพิ่มแล้ว จ่ายแค่ค่าวัตถุดิบอย่างเดียว
สินค้าตัวที่สอง เป็นตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติ แก้วละ 20 บาท มี 2 รุ่น รุ่น 3 เมนูราคา 59,000 บาท รุ่น 4 เมนูราคา 69,000 บาท ผู้ที่ซื้อแฟรนไชน์ไปสามารถผลิตได้ทันที ส่วนแรกที่เราให้คือ ตู้ การอบรม แก้ว และวัตถุดิบ ลูกค้าที่ซื้อไปแค่เสียบปลั๊ก เติมน้ำ เติมผงวัตถุดิบเข้าไป ก็จบแล้ว
ดร.นงค์นาถ : โดยสรุปแล้วมี 2 แฟรนไชน์ แฟรนไชน์ที่เป็นตู้หยอดเหรียญ และแฟรนไชน์ที่เป็นแบบหน้าร้าน ทั้ง 2 อย่างนี้กระแสตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง
คุณธฤษณุ: ถือว่าดีมากๆ ตอนนี้ลูกค้าเข้าคิวกันเยอะพอสมควร กำลังเร่งผลิตตู้ทยอยส่งลูกค้าอยู่ ตู้หนึ่งใช้เวลาผลิต 15 วัน ถึง 1 เดือน ส่วนชาชงสดสามารถรับของได้ทันที
ดร.นงค์นาถ : พอจะบอกได้ไหมว่า ตอนนี้มีคนซื้อแฟรนไชน์ไปจำนวนเท่าไหร่แล้ว
คุณธฤษณุ : แฟรนไชน์ชาชงสด ในระยะเวลาสองเดือนขายได้ประมาณ 200 แฟรนไชน์แล้ว ส่วนตู้ขายไปได้ประมาณ 180 ตู้และกำลังทยอยส่ง โดยมีตัวแทนจำหน่ายประจำภาคทุกภาค มีอยู่ 5 ทีม สิ่งที่ทำให้ลูกค้าสนใจซื้อแฟรนไชน์ชาชงสด เพราะว่าต้นทุนแก้วละประมาณ 25 บาท ขายให้ผู้บริโภคแก้วละ 60 บาท
เพราะฉะนั้นจะได้กำไรที่ชัดเจนต่อแก้วประมาณ 30-35 บาท นี่คือกำไรขั้นต้นหลังจากหักค่าวัตถุดิบ ที่เหลือก็เป็นค่าแรง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าสถานที่อาจจะไม่เหมือนกัน เฉลี่ยแล้วแต่ละรายที่ซื้อแฟรนไชน์ไปกำไรต่อแก้วไม่ต่ำกว่าแก้วละ 25-30 บาท ถ้าขายได้วันละ 100 แก้ว จะได้กำไรวันละ 2,500-3,000 บาท ช่วงโควิดยอดขายของบางเจ้าถึง 300-400 ก็มี สามารถคืนทุนได้ในระยะเวลาสั้น
ดร.นงค์นาถ: จุดคืนทุนใช้เวลาประมาณกี่เดือน
คุณธฤษณุ : มีบางเจ้า 2 อาทิตย์ บางเจ้า 3 อาทิตย์ ช้าสุด 1 เดือน 69,000บาท ถ้าขายได้ 100 แก้ว กำไรวันหนึ่งประมาณ 2,000-2,500 บาท 30 วันก็จะได้ 60,000-70,000บาท สามารถดูได้ในหน้าเฟสบุ๊คของ “Cafe’ Chakan” เป็นภาษาอังกฤษ และ เว็บไซต์ https://www.facebook.com/cafechakanofficial รายละเอียดอยู่ในนี้หมดเลย และเรายังเป็นสมาชิกเว็บไซต์ http://www.thaifranchisecenter.com มีสถานที่และเบอร์ติดต่อในนั้นที่ชัดเจนด้วย
ดร.นงค์นาถ : ตอนนี้เป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีข้อควรระวังสำหรับผู้บริโภคอะไรบ้าง
คุณธฤษณุ กุลเดชาธนโชติ : อยากชี้แจงเป็น 2 เรื่อง สรรพคุณและประโยชน์ ของกัญชาเป็นข้อมูลที่เปิดเผยสาธารณะอยู่แล้ว ไม่ว่าในไทยหรือต่างประเทศ สถาบันทั่วโลกก็จะมีข้อมูลกัญชาละเอียดมาก เท่าที่ดูทั่วไปสรรพคุณทางยาและประโยชน์ต่อร่างกายมีเยอะมาก แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดที่ระบุว่ามีข้อเสีย ยกเว้นแต่ที่เอาไปเสพเป็นยาเสพติด
เรื่องที่ 2 เป็นคำแนะนำจาก โรงพยาบาลอภัยภูเบศร และสถาบันอื่นๆ ในไทย 2-3 ราย เขียนชัดเจนว่า เครื่องดื่มกัญชาไม่เหมาะสำหรับสตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคลิ่มเลือด โรคตับ เป็นต้น
