ค.ศ. 2020 เป็นปีที่ “ดัลโกน่า ค๊อฟฟี่” (Dalgona coffee) กาแฟครีมสไตล์เกาหลีสุดฮิตติดเทรนด์ ปรากฎขึ้นเป็นครั้งแรกต่อสายตาประชมคมกาแฟโลก ก่อนแพร่ขยายกลายเป็นปรากฎการณ์ไวรัลดังเปรี้ยงปร้างขึ้นในโซเชียลมีเดีย มีการโพสต์ภาพและวิดีโอสูตรกาแฟชนิดนี้อวดกันมากมายหลากหลายรูปแบบ ท่ามกลางการกักตัวอยู่ในบ้านและเว้นระยะห่างทางสังคมของผู้คนจากพิษการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ในปีค.ศ. 2021 ก็ยังถือว่าดัลโกน่า ค๊อฟฟี่ เป็นเมนูกาแฟที่มาแรงสุดๆอย่างต่อเนื่อง ความนิยมไม่ได้ตกกระแสหายไปไหน มีการทำหรือรีวิวขึ้นกันอย่างคักคักในแฟลตฟอร์มออนไลน์ แถมปักหลักเป็นเมนูเด่นประจำร้านกาแฟจำนวนไม่น้อย แตกสูตรใหม่ออกเป็นหลายแนว ขึ้นชั้นมาเทียบเคียงกับเมนูผสมนมระดับดาวค้างฟ้า เช่น คาปูชิโน, ลาเต้, ม็อคค่า และ เดอร์ตี้ ค๊อฟฟี่ ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
ดังไม่ดังก็ขนาดเว็บไซต์ “รีวิวอาหาร” ทั่วเอเชีย รวมไปถึงยุโรปและอเมริกา พร้อมใจกันลงวิธีทำกาแฟดัลโกน่าโดยทั่วหน้า ไม่ต้องพูดถึงผู้ประกอบการในธุรกิจกาแฟที่ไม่ยอมพลาดโอกาสในการนำเสนอและหยิบมาเป็นเมนูประจำร้าน รวมไปถึงบรรดาคอกาแฟทั่วโลกที่พากันอัพโหลดคลิปเคล็ดลับ/สูตรเด็ด ลงตามโซเชียลมีเดีย ระหว่างเก็บตัวหรือทำงานอยู่ที่บ้านในช่วงสถานการณ์โควิดระบาดตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
ดัลโกน่า ค๊อฟฟี่ มีชื่อเรียกขานในบ้านเราค่อนข้างหลากหลาย ทั้งกาแฟวิปครีม, กาแฟฟองนม, กาแฟครีมเกาหลี, ครีมกาแฟเกาหลี, กาแฟครีมนมสด และ ฯลฯ แต่ดูเหมือนว่าชื่อกาแฟครีมเกาหลีจะได้รับความนิยมมากที่สุด ขณะที่ในต่างประเทศก็จะเรียกกันตรงๆไปเลยว่า ดัลโกน่า ค๊อฟฟี่
คอกาแฟท่านใดที่ชื่นชอบ “กาแฟผสมนม” ทั้งสูตรร้อนและสูตรเย็น ชอบในความหอมกรุ่นกลิ่น ถูกใจรสชาติหวานมันจากนม และบอดี้เข้มข้นจากครีมกาแฟ รับรองไม่ผิดหวัง เป็นกาแฟที่จะทำดื่มเองที่บ้านก็ได้ หรือทำขายที่ร้านก็สะดวกสบาย เป็นกาแฟผสมนมอีกสไตล์ที่อร่อย ทำง่าย ขายได้เลย เรียกว่า “สายนม” ก็ท่า “สายกาแฟ” ก็เข้าที
สูตรหรือวิธีทำก็ต้องการส่วนผสมที่หาได้ง่ายๆ แค่มีกาแฟที่ส่วนใหญ่นิยมทำกันตามสูตรตั้งต้น ก็คือ “กาแฟผงสำเร็จรูป” หรือที่บ้านเราเรียกว่ากาแฟอินสแตนท์ จะคั่วกลางเข้มหรือคั่วเข้มก็ได้ตามใจชอบ ตามด้วย “น้ำตาลทราย” จะขาวหรือแดงได้ทั้งนั้น ถ้าไม่ชอบหวานก็งดไปได้ แล้วก็“น้ำร้อน” นำส่วนผสมทั้ง 3 อย่างมาตีให้เข้ากันจนกลายเป็น “ครีม” เนื้อนุ่มคล้ายวิปครีม จะใช้แรงมือหรือเครื่องปั่นไฟฟ้าช่วยก็ได้ จากนั้นก็นำไปหยอดบนแก้วใส่ “นมสด” ถ้าชอบสูตรเย็น ก็ให้ใส่น้ำแข็งก้อนในแก้วก่อน
กลายเป็นเครื่องดื่มกาแฟ 2 เลเยอร์ ดูสวยงามด้วยชั้นนมขาว ๆ อยู่ข้างล่าง ครีมกาแฟสีน้ำตาลอยู่ด้านบน หน้าตาน่าลิ้มลองเป็นยิ่งนัก
จะเห็นว่าโดยหลักๆแล้วการทำกาแฟ “ดัลโกน่า ค๊อฟฟี่” แบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ การเตรียมครีมกาแฟกับการเตรียมนมสด ตามที่ผู้เขียนบอกกล่าวกันไปนั้น เป็นวิธีการทำแบบคร่าวๆ ถ้าให้ลงมือทำกันจริงๆ ต้องลงรายละเอียดตามสูตรที่กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ, น้ำตาลทราย, น้ำร้อน และนมสด ในยูทูบหรือเว็บไซต์หลายแห่งก็มีการนำเสนอเทคนิควิธีทำ กัน ทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
นับตั้งแต่ได้รับความนิยมมา กาแฟสไตล์เกาหลีตัวนี้ก็มีพัฒนาการไปมากตามรสนิยมของผู้ดื่ม มีส่วนผสมหลายอย่างเข้ามาเพิ่มเติม เช่น ท็อปปิ้งด้วยไซรัปช็อคโกแลต, น้ำเชื่อมคาราเมล, น้ำผึ้ง หรือขนมบิสกิต ทั้งส่วนผสมหลักดั้งเดิมก็เปลี่ยนรูปแบบไปบ้าง เช่น จากกาแฟผงสำเร็จรูปมาใช้ช้อตเอสเพรสโซหรือกาแฟโคลด์บรูว์แทน และจากนมวัวก็ปรับไปปรับนมพืช เช่น นมอัลมอนด์, นมถั่วเหลือง และนมแมคคาเดเมีย เป็นทางเลือก หากว่าเป็นคอกาแฟในสายสุขภาพ หรือเป็นผู้ที่แพ้นมวัว
มีเคล็ดลับมาฝากกันนิดนึงครับ วิธีจะดูว่าได้เนื้อ “ครีมกาแฟ” เหนียวลงตัวพอดีหรือไม่นั้น ให้ยกถ้วยหรือภาชนะที่เราใช้ปั่นหรือตีครีมกาแฟคว่ำลง หากครีมกาแฟเกาะติดกันแน่น ไม่ไหลย้อยลงมา ถือว่าใช้ได้แล้ว แล้วตัวครีมกาแฟ ก็สามารถใช้ถุงบีบวิปครีมหรือที่บีบหน้าเค้กแทนการตักด้วยมือ เพื่อหยอดลงในแก้วเพื่อความสวยงามได้เลย
หลายคนบอกว่าสูตรกาแฟสไตล์เกาหลีที่มีน้ำตาลทรายและนมสดเป็นส่วนผสม คล้ายคลึงกันมากกับกาแฟลาเต้สไตล์อินเดียและปากีสถานที่เรียกกันว่า “Phitti Hui coffee” อีกเมนูหนึ่งที่คล้ายๆ กันก็คือ “Frappe coffee” เมนูกาแฟจากกรีซ และ “Cafe Batido” ของอเมริกาใต้
อย่างที่ทราบกันดี ดัลโกน่า ค๊อฟฟี่ หรือที่หลายคนชอบเรียกว่ากาแฟครีมสไตล์เกาหลี มีจุดเริ่มเมื่อต้นปีค.ศ. 2020 หลังจากพระเอกซีรีย์ดังเกาหลี นามว่า “จอง อิลอู” เป็นผู้แนะนำวิธีการทำเอาไว้ในรายการวาไรตี้ทางโทรทัศน์รายการหนึ่ง ก่อนที่จะกลายมาเป็นกระแสไวรัลอันโด่งดังช่วง 2 ปีต่อมา เป็นเทรนด์สุดฮิตของสังคมออนไลน์ที่มีการติดแฮชแท็ก #dalgonacoffeechallenge และแชร์กันสนั่นในอินสตาแกรม, เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์, ยูทูบ และแอพติ๊กต๊อก
ร้านกาแฟในเกาหลีใต้เองอดใจอยู่ไม่ไหว รีบบรรจุมาเป็นเมนูประจำร้านคอยบริการลูกค้า ก่อนแพร่ความนิยมไปสู่ยุโรปและอเมริกาในเวลาอันรวดเร็ว
ในการเดินทางไปเกาะมาเก๊าเพื่อค้นหาอาหารจานเด็ดที่ทำจากเนื้อหมู จอง อิลอู มีโอกาสเข้าไปในร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่ง แล้วก็ต้องรู้สึกแปลกใจเมื่อกาแฟแก้วที่ร้านเสิร์ฟมาให้นั้น เมื่อชิมแล้ว ปรากฏว่า รสชาติและความหวานหอม ค่อนข้างคุ้นลิ้นเอามากๆ ทำให้เขานึกถึงขนมหวานพื้นบ้านเกาหลีที่มีขายอยู่ทั่วไปตามร้านรวงข้างทาง ซึ่งเรียกกันทั่้วไปว่า “ดัลโกน่า” หรือ “ขนมป๊ปกิ”
จากนั้นพระเอกหนุ่มจึงนำคลิปวิดีโอไปเปิดให้ดูกันทางรายการ Stars’ Top Recipe at Fun-Staurant ซึ่งเป็นรายการวาไรตี้ทางทีวีเกี่ยวกับอาหารที่ได้รับความสนใจจากผู้ชมชาวเกาหลีอย่างมาก
ขณะเดียวกัน พระเอกหนุ่มเกาหลี ก็ถ่ายคลิปวิดีโอขั้นตอนการทำกาแฟจากห้องครัวในบ้าย แล้วโพสต์ลงช่องยูทูบส่วนตัว “Jung II-woo Delights” ในขั้นตอนการทำนั้น จอง อิลอู หยิบกาแฟจากร้านที่มาเก๊ามาทำใหม่ มีการปรับเปลี่ยนสูตรกาแฟ เพิ่มนมสดเข้าไป แต่กรรมวิธีการเตรียมครีมกาแฟไม่ต่างไปจากร้านมาเก๊าเลย ซึ่งดูจากสูตรแล้ว กาแฟครีมเกาหลีเหมือนสลับขั้วกันกับกาแฟผสมนมอย่าง “ลาเต้” และ “คาปูชิโน” เนื่องจากสองเมนูหลังนี้ ใช้กาแฟเป็นตัวตั้งแล้วสตีมโฟมนมเติมลงไป ส่วนกาแฟดัลโกน่า ใช้นมสดเป็นตัวตั้งแล้วใส่ครีมกาแฟลงไป
หนึ่งในคนแรกๆที่ลองทำดัลโกน่า ค๊อฟฟี่ เป็นคลิปวิดีโอลงช่องยูทูบ ก็คือแม่บ้านเกาหลี ชื่อ “뚤기ddulgi” นับจากเดือนกุมภาพันธ์ 2020 จนถึงปัจจุบันยอดวิวประมาณ 5 ล้านวิวเข้าไปแล้ว ถือว่าไม่ธรรมดาเลย
อีกคลิปสั้นๆที่มาแรงก็คือ ของผู้ใช้แพล็ตฟอร์มติ๊กต๊อก ชื่อ “@imhannahcho” หรือ ฮันนาห์ ชู นักร้องชาวเกาหลี-อเมริกัน มียอดวิวเข้าชมคลิปทำกาแฟครีมประมาณ 2.1 ล้านวิว คอมเมนต์อีกกว่า 8,000 คอมเมนต์ และแชร์ไปอีกเกือบๆ 180,000 ครั้ง จนถึงต้นเดือนมกราคมปีนี้
ร้านกาแฟชื่อดังของเกาหลีใต้ที่ชื่อ “ทัม เอ็น ทัมส์ ค๊อฟฟี่” เมื่อครั้งไปเปิดสาขาแห่งแรกที่สิงคโปร์ บริเวณย่านตันจง ปาการ์ ก็นำดัลโกน่า ค๊อฟฟี่ มาเสิร์ฟเป็นเมนูหลักของร้าน เช่นเดียวกับสาขาหลายแห่งของทัม เอ็น ทัมส์ ในประเทศไทย ก็มีกาแฟครีมเกาหลีไว้คอยบริการลูกค้าเหมือนกัน
กระทั่งแบรนด์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอย่าง “สตาร์บัคส์ ” ก็หยิบกาแฟตัวนี้มานำเสนออย่างไม่ยอมพลาด ในเว็บไซต์ของสตาร์บัคส์เองลงขั้นตอนวิธีการทำกาแฟครีมเกาหลีไว้โดยละเอียด พร้อมตั้งชื่อว่า “Dalgona Whipped coffee” ส่วนกาแฟก็ใช้กาแฟสำเร็จรูปแบบซองของแบรนด์สตาร์บัคส์เอง
ไม่ทราบว่าได้อิทธิพลมาจากเมนูดังของแบรนด์กาแฟยักษ์ข้ามชาติมาหรืออย่างไร “มิชาเอล โลเปซ” บล็อกเกอร์รีวิวอาหารชื่อดัง ได้ใช้นมกลิ่นเครื่องเทศฟักทอง (pumpkin spice) ประมาณ 1 ช้อนชา เข้ามาเป็นส่วนผสม พร้อมเลือกใช้น้ำตาลมะพร้าว ผู้เขียนได้เห็นเมนูกาแฟดัลโกน่าของโลเปซแล้ว ก็น่าชวนลิ้มชิมรสไม่น้อยเลยทีเดียว ใครอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม แวะเข้าไปชมดูได้ที่ http://www.instagram.com/hummingbirdhigh
สำหรับคอกาแฟที่ไม่นิยมนมสด ก็มาทางนี้เลยครับ ยูทูบเบอร์ ชื่อ “Pan Spoon” นำเสนอสูตรกาแฟครีมเกาหลีในแบบที่ไม่ใส่นม วิธีการทำก็น่าสนใจมากๆ
เริ่มจากนำกาแฟสำเร็จรูป,น้ำตาลทราย และน้ำร้อน มาปั่นให้เข้ากันเป็นเนื้อครีมโดยใช้เครื่องตีฟองนมไฟฟ้า จากนั้นเติมน้ำร้อนลงในแก้ว ให้ระดับน้ำห่างจากขอบแก้วประมาณ 1 นิ้ว แล้วตักครีมกาแฟหยอดลงไปด้านบนแก้วจนเต็ม นำช้อนชาลงไปค้นด้านล่างแก้ว จนครีมกาแฟเริ่มละลายปนกับน้ำร้อนจนเป็นสีน้ำตาลกาแฟ แล้วใช้ไซรัปช็อคโกแลคหยอดลงบนตรงกลางหน้าแก้ว ตามด้วยใช้ปากกาวาดลายลาเต้อาร์ต แต่งหน้ากาแฟครีมตามจินตนาการ ชอบเลยครับวิธีนี้ ลองชมตัวอย่างได้ตามลิงก์นี้ http://www.youtube.com/watch?v=-UNuRYtyNxE
จากไวรัลดังในโลกโซเชียลเมื่อต้นปี 2020 สู่เมนูกาแฟหลักประจำร้านในปี 2021 “กาแฟครีมสไตล์เกาหลี” ไม่ได้ตกกระแสหล่นหายไปตามกาลเวลาเช่นไวรัลอื่นๆ ด้วยคอนเซปท์ที่ทำง่าย หาส่วนผสมได้ไม่ยาก รสชาติครีมกาแฟก็อร่อยแปลกใหม่ จึงถูกหยิบจับขึ้นมาเสิร์ฟเป็นเมนูร้อนและเย็นตามร้านกาแฟต่างๆ กลายเป็นเครื่องดื่มของประชาคมกาแฟโลกอีกตัวไปเสียแล้ว
ว่าแต่ท่านผู้อื่นเคยลองชิมหรือยังล่ะครับ…ดัลโกน่า ค๊อฟฟี่
facebook : CoffeebyBluehill