กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ หอการค้าไทย (TCC) และโคโลญเมสเซ่ (KM) เดินหน้าจัดงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม THAIFEX – ANUGA ASIA 2023 ในวันที่ 23-27 พฤษภาคม 2566 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ยิ่งใหญ่และครบวงจรที่สุดในเอเชีย บนพื้นที่กว่า 130,000 ตารางเมตร โดยเปิดเจรจาการค้าทั้ง 5 วัน และให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม และซื้อสินค้าได้ในวันสุดท้ายของการจัดงาน
ซึ่งงานจัดขึ้นภายใต้แนวคิด Beyond Food Experience เปิดประสบการณ์ที่ “มากกว่า” งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม รวมทุกความต้องการไว้ในงานเดียว พร้อมดึงผู้ซื้อจากทั่วโลกมาเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการด้านอาหารและเครื่องดื่มที่ร่วมจัดแสดงในงานกว่า 3,000 บริษัท ตั้งเป้าเงินสะพัดกว่า 70,000 ล้านบาท
นางสาวณัฐิยา สุจินดา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ปี 2563–2565 เป็นช่วงเวลาที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้การจัดงาน THAIFEX – ANUGA ASIA ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาต้องมีการปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับสถานการณ์
แต่ปีนี้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ผู้จัดงานทั้ง 3 ฝ่าย จึงเดินหน้าเตรียมจัดงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2023 เต็มรูปแบบให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม เพื่อให้งานนี้เป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ครบวงจรที่สุดในภูมิภาคเอเชีย และเป็นเวทีการค้าระดับโลกสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่จะได้มาเจรจาธุรกิจ สร้างโอกาสทางการตลาด ค้นหานวัตกรรม เทคโนโลยี แรงบันดาลใจ เชื่อมต่อธุรกิจทุกภาคส่วนในวงการอาหาร
และงานนี้ยังเป็นการเน้นย้ำให้ทั่วโลกเห็นศักยภาพของประเทศไทยในฐานะผู้นำในการผลิตและส่งออกอาหารที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก ตามนโยบายอาหารไทยอาหารโลกของกระทรวงพาณิชย์
“ปีนี้จะมีผู้ประกอบการมาร่วมจัดแสดงสินค้ากว่า 3,000 บริษัท ประมาณ 5,500 คูหา รวม 43 ประเทศ แบ่งเป็นผู้ประกอบการไทย 1,200 บริษัท และผู้ประกอบการต่างชาติจากทั่วโลก ทั้งเอเชียตะวันออก อาเซียน ยุโรป สหรัฐอเมริกา ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย เป็นต้น
ซึ่งเราก็คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าชมงานมาเจรจาการค้ากว่า 60,000 คน จาก 120 ประเทศทั่วโลก เนื่องจากอาหารและเครื่องดื่มของไทยได้รับความสนใจจากต่างชาติมาก โดยเราตั้งเป้าว่างานปีนี้จะมีมูลค่าการสั่งซื้อกว่า 70,000 ล้านบาท และมีมูลค่าการสั่งซื้อออนไลน์ผ่าน THAIFEX Virtual Trade Show กว่า 1,500 ล้านบาท” นางสาวณัฐิยา กล่าว
ภายในงานจะมีการจัดแสดงสินค้า โดยแบ่งเป็น 11 โซนสินค้า ประกอบด้วย สินค้าอาหารทุกประเภท อาหารทะเล เนื้อสัตว์ อาหารแช่แข็ง ข้าว ผักและผลไม้ ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม ชาและกาแฟ เครื่องมือ/เครื่องใช้/อุปกรณ์ รวมถึงบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมทั้งกิจกรรมพิเศษมากมาย
ทั้งการแข่งขัน Thailand Ultimate Chef Challenge กิจกรรมเสวนาให้ความรู้ กิจกรรมเปิดโลกการค้ากับทูตพาณิชย์ (Export Clinic) และยังมีโซนพิเศษที่จะอัปเดตเทรนด์ผู้บริโภค อาทิ THAIFEX-Anuga Halal Market, THAIFEX–Anuga Organic Market, THAIFEX–Anuga Future Food Market, Future Food Experience+, THAIFEX–Anuga tasteInnovation Show, Thai SELECT Pavilion
พร้อมทั้งนิทรรศการที่น่าสนใจ อาทิ DITP Service Center นิทรรศการส่งเสริมผลิตภัณฑ์สมุนไพร นิทรรศการ Thailand: The Land of Tropical Fruits นิทรรศการ THAIFEX-Anuga Halal Pavilion และ Information Stand ของหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งการเปิดตัวงานแสดงสินค้าใหม่อีกหนึ่งงาน THAIFEX–HOREC ASIA ที่มุ่งเน้นลูกค้าในกลุ่มธุรกิจ HoReCa
นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริง THAIFEX–Virtual Trade Show ควบคู่กับการจัดทาง On Ground เพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่ไม่สะดวกเดินทาง ซึ่งสามารถเข้าไปเลือกประเภทสินค้าที่สนใจ ชมคูหา 3 มิติ วิดีโอ แค็ตตาล็อกสินค้า และรูปภาพสินค้า รวมถึงเจรจาการค้าทางวิดีโอคอล แชต หรือฝากข้อความได้
ดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทยมีความเข้มแข็ง และเป็นศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาคนี้ ในปี 2565 ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกอาหารอันดับ 15 ของโลก มีมูลค่า 1.36 ล้านล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.7 จากปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการสินค้าอาหารในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ประเทศต่าง ๆ ทยอยเปิดประเทศตั้งแต่ต้นปี 2565
“งาน THAIFEX – ANUGA ASIA มีความสำคัญต่อผู้ประกอบการไทย ทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ SMEs รวมถึงกลุ่มสตาร์ตอัป ที่จะมีโอกาสนำสินค้าและบริการเข้าสู่ตลาดทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ จึงเชื่อว่างานนี้จะช่วยส่งเสริมธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด” ดร.กฤษณะ กล่าว
ดร.กฤษณะ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าการกลับมาจัดเต็มรูปแบบอย่างยิ่งใหญ่ในปีนี้ ได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการรายใหญ่มากมาย โดยจะมีการนำเสนอนวัตกรรม และกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การระบุเรื่อง Carbon Footprint และ Eco Score การนำเสนอแนวคิดสินค้าที่เกี่ยวกับ Zero Waste และ Food Waste การให้ความสำคัญกับแนวทางความยั่งยืนตลอด Value Chain ซึ่งนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน จะไม่เป็นเพียงกระแส แต่จะกลายเป็นไลฟ์สไตล์ที่ทุกคนหันมาใช้อย่างจริงจัง
ส่วนผู้ประกอบการขนาดกลาง SMEs ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และสตาร์ตอัป ก็ให้ความสนใจเข้าร่วมแสดงสินค้าจำนวนมากเช่นกัน เพราะเป็นโอกาสที่จะได้แนะนำสินค้า ทดสอบตลาด และสร้างโอกาสทางธุรกิจกับงานระดับนานาชาติ
ทางด้าน นายภูษิต ศศิธรานนท์ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ โคโลญเมสเซ่ ประเทศไทย กล่าวถึงการดำเนินมาตรการด้านความยั่งยืนในการจัดงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2023 ว่า “เราได้ดำเนินมาตรการที่จะเป็นการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเพิ่มการใช้งานระบบดิจิทัลและแอปพลิเคชันมือถือ ลดการใช้สื่อสิ่งพิมพ์ เช่น คู่มือและโบรชัวร์ รวมไปถึงยกเลิกการใช้พรมบริเวณทางเดิน และปรับมาใช้บัตรเข้างานแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งช่วยประหยัดสายคล้องคอได้กว่า 70,000 เส้น
นอกจากนี้ หลังจบงานจะนำเอาป้ายและแบนเนอร์ต่าง ๆ ในงาน ไปจัดทำเป็นกระเป๋า เพื่อนำไปบริจาคให้โรงเรียน และองค์กรการกุศล ตามเป้าหมายในการจัดงานแสดงสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเป้าหมายสูงสุดของเรา คือ การเป็นผู้นำและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นร่วมกันคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมทั้งในปัจจุบันและในอนาคต”
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2023 ได้ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) โทร.1169 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้าได้ที่ http://www.thaifex-anuga.com
เจรจาธุรกิจวันที่ 23–27 พฤษภาคม 2566 เวลา 10.00-18.00 น. จำหน่ายปลีกวันที่ 27 พฤษภาคม 2566 เวลา 10.00-20.00 น. ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ ฮอลล์ 5-12 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี