“มูลนิธิสัมมาชีพ” มอบรางวัลต้นแบบสัมมาชีพ ปี 66 เชิดชู “คน-องค์กร” นำสังคมสร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่

“มูลนิธิสัมมาชีพ” มอบ 15 รางวัล “ต้นแบบสัมมาชีพ” ปี 2566 แก่ “บุคคล-เอสเอ็มอี-วิสาหกิจชุมชน-ปราชญ์ชาวบ้าน เชิดชูเกียรติ ผู้ยึดแนวทางสัมมาชีพจนประสบความสำเร็จ หวังเป็นแบบอย่างเคลื่อนสัมมาชีพเต็มพื้นที่ “ดร.ชัยวัฒน์ แต้ไพสิฐพงษ์” อดีตประธานกิตติมศักดิ์ บมจ.เบทาโกร คว้ารางวัล “บุคคลต้นแบบสัมมาชีพ” โดยทายาทยืนยันพร้อมสานต่อเจตนารมณ์ดร.ชัยวัฒน์

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพ กล่าวว่า มูลนิธิสัมมาชีพได้จัดงานมอบรางวัล “ต้นแบบสัมมาชีพ” ครั้งที่ 9 ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด “สัมมาชีพ สร้างความมั่นคงฐานราก สร้างความยั่งยืนประเทศ : Stability for Sustainability” เพื่อประกาศเกียรติคุณและยกย่องเชิดชู บุคคล-เอสเอ็มอี-วิสาหกิจชุมชน-ปราชญ์ชาวบ้าน ที่ประสบความสำเร็จในการประกอบการ โดยยึดหลักปฏิบัติตามแนวทางสัมมาชีพ นั่นคือ การประกอบอาชีพโดยไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และมีรายจ่ายน้อยกว่ารายได้  ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลเหล่านี้จะเป็นเสมือน “ผู้นำทางสังคม” สร้างแรงบันดาลใจให้คนหรือองค์กรต่าง ๆ นำไปปรับใช้ ขยายผลสู่การสร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่ สร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจฐานราก และสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศ ต่อไป

“การจัดงานมอบรางวัลต้นแบบสัมมาชีพมีขึ้นเพื่อยกย่องผู้ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินกิจการอย่างถูกต้องบนหลักของสัมมาชีพ และมีความรับผิดชอบต่อชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม โดยหากทุกภาคส่วนได้ดำเนินการบนแนวทางนี้แล้ว จะมีส่วนสำคัญในการร่วมสร้างเศรษฐกิจ สังคม ของประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคง”  นายประเสริฐ กล่าว

ในงานดังกล่าวมีแขกผู้มีเกียรติและองค์กรภาคีเข้าร่วมงานคับคั่ง อาทิเช่น ดร.อุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และดร.อรรชกา สีบุญเรือง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังมีผู้ที่เคยได้รับรางวัลบุคคลต้นแบบสัมมาชีพ คือ นายอิสระ ว่องกุศลกิจ บุคคลต้นแบบสัมมาชีพ ประจำปี 2553  และนายประทีป ตั้งมติธรรม บุคคลต้นแบบสัมมาชีพประจำปี 2561 เข้าร่วมด้วย

สำหรับรางวัล “ต้นแบบสัมมาชีพ” ประจำปี 2566 มี 4 ประเภทคือ รางวัลบุคคลต้นแบบสัมมาชีพ รางวัลเอสเอ็มอีต้นแบบสัมมาชีพ รางวัลวิสาหกิจชุมชนต้นแบบสัมมาชีพ และรางวัลปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพ

“รางวัลบุคคลต้นแบบสัมมาชีพ” มอบให้แก่ ดร.ชัยวัฒน์ แต้ไพสิฐพงษ์ อดีตประธานกิตติมศักดิ์ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ และอดีตประธานกรรมการบริษัท เบทาโกร โฮลดิ้ง จำกัด นับเป็นบุคคลต้นแบบคนที่ 9 ตั้งแต่มีการมอบรางวัลนี้เมื่อปี 2552 เป็นต้นมา

ดร.ชัยวัฒน์ เป็นผู้ประกอบการธุรกิจขนาดใหญ่ที่เป็นแบบอย่างของการสร้างตัวจนประสบความสำเร็จ และได้รับการยอมรับมายาวนานด้านการทำธุรกิจโดยสุจริต เป็นผู้ยึดหลักการทำธุรกิจที่ว่า “ความถูกต้องต้องมาก่อนกำไร” ให้ความสำคัญกับการดูแลชุมชนแบบองค์รวม จนเกิดเป็นโมเดลพัฒนาพื้นที่ในชื่อ “ช่องสาริกาโมเดล”

ด้านนายวนัส แต้ไพสิฐพงษ์ กรรมการ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) ทายาท ดร.ชัยวัฒน์ แต้ไพสิฐพงษ์ กล่าวขอบคุณมูลนิธิสัมมาชีพที่มอบรางวัลนี้ให้แก่ดร.ชัยวัฒน์ และระบุว่า ดร.ชัยวัฒน์ถือเป็นผู้ซึ่งยึดหลักการดำเนินธุรกิจโดยสุจริต ยึดหลักความถูกต้องต้องการก่อนกำไร และเกื้อกูลชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นที่ประจักษ์กันดี

สำหรับ “ช่องสาริกาโมเดล” ถือเป็นโมเดลพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนของเบทาโกร เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ ต.ช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  โดยยึดแนวคิดการพัฒนาในเชิงพื้นที่แบบองค์รวม (Holistic Area-Based – HAB) เน้นการดำเนินการระดับตำบล ในทุกมิติ ได้แก่ การส่งเสริมอาชีพ ดูแลสุขภาพ  ช่วยเหลือสังคม ดูแลสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการศึกษา นอกจากนี้ยังร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ มหาวิทยาลัย  องค์การบริหารส่วนตำบล และหน่วยงานรัฐอื่นๆ และสร้างกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) มาทำงานเป็นกลไกเสริม

“คุณพ่อสร้างเบทาโกรมาจริงๆ ตั้งแต่ยังเป็นผืนดินที่รอการพัฒนา จนมาเป็นวันนี้ เสียดายที่คุณพ่อไม่ได้มาเล่าเรื่องราวความสำเร็จนี้ด้วยตัวเอง ลูกๆ หลานๆ จะนำแนวคิดของคุณพ่อไปดำเนินการอย่างต่อเนื่อง คุณพ่อเป็นคนดุ มีพรสวรรค์ในการขาย สอนเสมอว่าทุกคนเมื่อมีสิทธิ์ ก็ต้องมีหน้าที่ และคุณพ่อในฐานะพี่คนโตของตระกูล จะภูมิใจเสมอที่ดูแลกิจการให้อยู่มาได้ตลอดรอดฝั่ง”  นายวนัส กล่าว

สำหรับรางวัลอื่นๆ ที่มอบในงานนี้ประกอบด้วย สำหรับ “รางวัลเอสเอ็มอีต้นแบบสัมมาชีพ” มอบให้กับธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีคุณลักษณะตามหลักสัมมาชีพ มีธรรมาภิบาล มีความสามารถทางธุรกิจและธุรกิจมีศักยภาพในการเติบโต ควบคู่ไปกับการมีบทบาทส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน และให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม มีผู้ที่ได้รับรางวัล 5 ราย ได้แก่

บริษัท ไทยทิชชูคัลเจอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จ.มหาสารคาม เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายต้นกล้าพันธุ์พืชที่เกิดจากการขยายพันธุ์ด้วยเทคนิคเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

บริษัท พิมธา จำกัด จ.ปราจีนบุรี  ดำเนินกิจการแปรรูปไม้ไผ่เพื่อการตกแต่งและก่อสร้าง โดยใช้นวัตกรรมระบบป้องกันมอดในไม้ไผ่ด้วยการอัดน้ำยาแบบสุญญากาศเป็นรายแรกและรายเดียวในไทย

บริษัท สไมล์ฟาร์ม ฟู้ด แอนด์ เซอร์วิส จำกัด  จ.ราชบุรี  เป็นผู้ผลิตเฟรนช์ฟรายส์ที่ทำจากถั่วเขียวร้อยเปอร์เซ็นต์รายแรกและรายเดียวของไทย

บริษัท อัฟนานจิวเวลรี่ จำกัด จ.ยะลา ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับและอัญมณีทุกชนิดในสไตล์ศิลปะลังกาสุกะ ถือเป็นการสืบทอดลวดลายศิลปะแบบโบราณ

บริษัท เทิร์นทูอาร์ต จํากัด จ.นนทบุรี ผลิตสินค้าจากเศษวัสดุเหลือใช้เป็นงานศิลปะเพื่อสร้างจิตสํานึกที่ดีต่อการจัดการขยะ

“รางวัลวิสาหกิจชุมชนต้นแบบสัมมาชีพ” จำนวน 5 รางวัล มอบให้กับวิสาหกิจชุมชนซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีในการประกอบการบนหลักสัมมาชีพ สามารถสร้างเศรษฐกิจชุมชนจากสินค้าใหม่ หรือภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมทั้งนำความรู้ เทคโนโลยีมาปรับใช้จนประสบความสำเร็จ และดำเนินงานโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับรางวัล 5 กลุ่ม ประกอบด้วย

วิสาหกิจชุมชนประเภทการเกษตร ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนพิลาฟาร์มสตูดิโอ จ.เพชรบูรณ์ นำแนวคิดด้านการออกแบบแฟชั่นมาผนวกกับธุรกิจการเกษตรของชุมชน พัฒนาสู่การท่องเที่ยวเชิงเกษตร

ประเภทแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร ได้แก่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านโคกสว่าง จ.ขอนแก่น ผลิตข้าวแตนสูตรต่างๆ โดยการผลิตมีมาตรฐาน

ประเภทแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร ได้แก่ วิสาหกิจชุมชน HAND-IN-HAND RUSO จ.นราธิวาส ทำกิจการโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูปขนาดใหญ่

ประเภทการเงินและสวัสดิการชุมชน ได้แก่ สถาบันการเงินชุมชนบ้านดอน จ.เชียงใหม่ ให้บริการทางการเงินที่ครบวงจร และขยายสู่การลงทุนในกิจการอื่นๆ

ประเภทการบริการและการท่องเที่ยวโดยชุมชน  ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ต จ.ภูเก็ต พัฒนาการท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าโดยนำสถาปัตยกรรมเมืองเก่ามาเป็นจุดเด่น

รางวัลปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพ” มี 4 รางวัล เป็นรางวัลที่มอบให้แก่บุคคลที่ริเริ่ม สร้างสรรค์งาน จนสำเร็จด้วยหลักสัมมาชีพ และนำมาสร้างผลิตภัณฑ์ บริการ หรือกระบวนการทำงานที่ก่อให้เกิดคุณค่า เผยแพร่ความรู้และก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับชุมชน ท้องถิ่น หรือระดับประเทศ โดยผู้ที่ได้รับรางวัลปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพ ประกอบด้วย

นายวิโรจน์ คงปัญญา มีผลงานการเงินและสวัสดิการชุมชน โดยเป็นผู้คิดค้นวิธีการบริหารระบบการเงิน การให้เงินกู้ ของกลุ่มออมทรัพย์บ้านดอนคา จ.นครศรีธรรมราช จนได้รับการคัดเลือกเป็นโรงเรียนออมทรัพย์

นายสิทธิพงษ์ อรุณรักษ์ มีผลงานด้านการผลิตและปรับปรุงพันธุ์มังคุด เป็นริเริ่มการรวมกลุ่มผู้ปลูกมังคุดท่ามะพลา จ.ชุมพร เพื่อผลิตมังคุดคุณภาพ และเป็นต้นแบบประมูลมังคุดเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออก ที่รู้จักในชื่อ “ท่ามะพลา โมเดล”

นายธนากร จีนกลาง ผลงานด้านการแปรรูปยางพาราไร้กลิ่น เป็นผู้นำนวัตกรรมโรงอบยางพาราพลังงานแสงอาทิตย์แบบพาราโบลาโดมมาใช้ จนสามารถช่วยแก้ปัญหากลิ่นยาง

นายก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ ผลงานด้านนวัตกรรมสีย้อมจากธรรมชาติ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการคิดค้นสีจากธรรมชาติ และแปรรูปของเหลือใช้ภาคเกษตรเป็นผลิตภัณฑ์สี


 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *