เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีสื่อออนไลน์ภาษาอังกฤษบางแห่งพาดหัวข่าวแบบฟันธงลงไปว่า ลืมจอร์จ คลูนีย์ ไปได้เลย ตอนนี้เนสเพรสโซเลือกเดวิด เบ็คแฮม เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ คนใหม่แล้ว!
“เนสเพรสโซ” (Nespresso) ยักษ์ใหญ่วงการเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล หนึ่งในแบรนด์กาแฟเรือธงของเนสท์เล่ ประกาศผ่านสื่อโซเชียลมีเดียอย่างเฟสบุ๊คและอินสตาแกรม เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ด้วยข้อความว่า ยินดีต้อนรับ “เดวิด เบ็คแฮม” เข้าสู่เนสเพรสโซ แฟมิลี อย่างเป็นทางการ ในฐานะแบรนด์ แอมบาสเดอร์ พร้อมปล่อยภาพและคลิปวิดีโออดีตซูเปอร์สตาร์ดังของโลกลูกหนัง จิบกาแฟอย่างรื่นรมย์ จากเครื่องชงกาแฟแคปซูล และติดแฮชแท็ก #NespressoXDavidBeckham
แบรนด์กาแฟดังรายนี้มีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก แต่เลือกใช้โซเชียลมีเดียของเนสเพรสโซ่ในอังกฤษและไอร์แลนด์ เป็นช่องทางเปิดตัวแบรนด์ แอมบาสเดอร์ ผู้ทำหน้าที่เสมือนตัวแทนของแบรนด์ คอยช่วยโปรโมทสินค้าและบริการ จึงน่าจะตีความได้ว่า เป็นดีลที่เนสเพรสโซต้องการโฟกัสตลาดกาแฟใน “สหราชอาณาจักร” เป็นสำคัญ มากกว่าตลาดอื่นๆ
ในบัญชีอินสตาแกรมและเฟสบุ๊คของเดวิด เบ็คแฮม เองก็โพสต์ภาพและคลิปวิดีโอในแบบเดียวกัน เป็นภาพโปรโมทแบรนด์เนสเพรสโซ ให้เบ็คแฮมถือแก้วกาแฟที่น่าจะเป็นเมนูคาปูชิโน พร้อมฉีกยิ้มแก้มแทบปริ ด้วยเพราะกาแฟมีรสชาติอร่อยและได้ “จ๊อบใหม่” ไปพร้อมๆ กัน
ส่วนคลิปโฆษณาคอมเมอร์เชียลสั้นๆ มีพล็อตเรื่องประมาณว่า เบ็คแฮมกำลังชงกาแฟ จู่ๆก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา บนหน้าจอสมาร์ทโฟนโชว์ว่ามาจากออฟฟิศ จากนั้นเขาก็กดตัดสัญญาณทิ้งไป พลางยักไหล่ทำนองยังไม่พร้อมคุย ก่อนยกแก้วกาแฟขึ้นจิบช้าๆอย่างละมุน
เป็นคลิปโฆษณาสั้นๆแต่ก็มีคอนเซปท์ชัดเจนและเชื่อมโยงกันได้ลงตัวทีเดียว
ผู้เขียนเห็นแล้วนึกไปถึงไลฟ์สไตล์ในแต่ละวันของเดวิด เบ็คแฮม ที่แม้ขณะนี้ผันตัวเองไปมีภาพลักษณ์เป็น “นักธุรกิจ” ดาวรุ่งที่โด่งดังและร่ำรวย แต่ก็ยังมีโลกส่วนตัวที่ไม่อยากให้ใครมารบกวน แม้กระทั่งออฟฟิศโทร.มาซึ่งชัวร์ว่าเป็นวาระทางธุรกิจแน่ แต่เบ็คแฮมก็ยังขอเอาไว้ทีหลัง ปรารถนาที่จะดื่มกาแฟก่อน สอดคล้องกับแคแรคเตอร์ของเขาที่ใครๆก็รู้เป็นนักเสพกาแฟมานานแล้ว เน้นเฉพาะกาแฟเกรดคุณภาพ และก็ชอบชงดื่มเองเสียด้วย
นับจากนี้ไปเอฟซีแฟนคลับอาจได้เห็นภาพหรือคลิปเดวิด เบ็คแฮม เริ่มต้นทุกเช้าด้วยการจิบกาแฟเนสเพรสโซหนึ่งแก้ว แล้วโพสต์ลงบัญชีโซเชียลส่วนตัวอย่างอินสตาแกรมที่มียอดผู้ติดตามทั่วโลก 85 ล้านคน และเฟสบุ๊คอีก 58 ล้านคน
สำหรับโฉมหน้าค่าตาชองเครื่องชงที่เนสเพรสโซนำมาใช้ในการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์นั้น แม้จะเห็นไม่ถนัดชัดเจนว่าเป็นรุ่นไหน แต่ตามรายงานข่าวระบุว่าเป็นเครื่องชงรุ่นใหม่ชื่อ “เวอร์ทูโอ ครีเอติสต้า” (Vertuo Creatista) กับแคปซูลกาแฟ รุ่น “เมโลซิโอ้” (Melozio)
นี่คือ ภาพรวมดีลทางธุรกิจของแบรนด์กาแฟดังกับซูเปอร์สตาร์ดัง ระหว่างเนสเพรสโซจากแดนสวิสกับเดวิด เบ็คแฮมจากอังกฤษ ที่ยังไม่รู้ว่าค่าตัวค่าเหนื่อยของคนหลังมีมูลค่ามากน้อยขนาดไหน แต่ต้องเป็น “บิ๊ก มันนี่” แน่ๆ มั่นใจได้เลยว่าจะส่งผลให้ยอดทรัพย์สินสุทธิของเบ็คแฮมพุ่งสูงขึ้นไปอีก จากตัวเลขราวๆ 460 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน
เดวิด เบ็คแฮม กับภาพลักษณ์นักดื่มกาแฟ มีให้เห็นเป็นประจำในโซเชียลมีเดีย ล่าสุดก็เป็นภาพยนตร์สารคดีชีวประวัติ 4 ตอนของเน็ตฟลิกซ์ ที่เจาะลึกชีวิตของอดีตดาวเตะปิศาจแดงรายนี้ ฉากหนึ่งในห้องครัวของเขา ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นเครื่องชงกาแฟ “ลา มาร์ซอคโค” ของอิตาลี รุ่น ลีเนีย มินิ ซึ่งถือเป็นเครื่องชงรุ่นยอดนิยมตัวหนึ่ง
กับโลกฟุตบอล เดวิด เบ็คแฮม คืออดีตนักฟุตบอลระดับสตาร์ดังของสโมสรปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ เจ้าของสมญา “มิดฟิลด์เท้า(ขวา)ชั่งทอง” เพราะเปิดบอลด้วยเท้าขวาแม่นราวจับวาง แต่หลังจากเลิกเล่นฟุตบอลไปนานหลายปี ทุกวันนี้เบ็คแฮมในวัย 48 ปี ก็ยังคงไว้ซึ่งชื่อเสียงโด่งดังระดับโกลบอล ไอคอน ที่ทำธุรกิจจนมีเงินมีทองร่ำรวย และมีข่าวคราวปรากฏตามสื่อออนไลน์แทบไม่เว้นแต่ละวันกับอีกบทบาท ในฐานะตัวพ่อของวงการแฟชั่น และวัฒนธรรมป๊อป
มีคนพูดกันว่า เบ็คแฮม ทำธุรกิจเก่งไม่แพ้เล่นฟุตบอล หลังจากแขวนสตั๊ด เขาก่อตั้งบริษัท “เบ็คแฮม แบรนด์ โฮลดิงส์” และบริษัทในเครืออีกหลายแห่ง เพื่อบริหารจัดการผลประโยชน์ทางธุรกิจ มีบริษัทดีบี เวนเจอร์ส ดูแลดีลที่เขารับงานเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์สินค้าดังๆ รวมถึงการโพสต์คอนเทนต์โฆษณาลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นเจ้าของแบรนด์ “David Beckham” แบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์ เช่น เสื้อผ้า, น้ำหอม, ครีมบำรุงผิว, แว่นตา และผลิตภัณฑ์ด้านความงามสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ
ว่ากันว่า ภาพลักษณ์ชื่อเสียงของคนเรามีมูลค่า สามารถสร้างโอกาส นำไปต่อยอดเป็นธุรกิจได้หลากหลาย อดีตนักฟุตบอลอย่างเดวิด เบ็คแฮม ก็เช่นเดียวกัน
อันที่จริงสตอรี่ทางธุรกิจของเขายังมีอีกมากมาย หากขืนเล่าต่อไป อาจไม่จบในบทความนี้ จัดเป็นอีกกรณีศึกษาทีเดียว รวมไปถึงการได้สิทธิ์ตั้งสโมสรฟุตบอลใหม่ อินเตอร์ ไมอามี่ ในลีกฟุตบอลสูงสุดในสหรัฐอเมริกา ที่ “ลิโอเนล เมสซี่” ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนติน่า ย้ายทีมไปเล่นด้วยในขณะนี้
เอาเป็นว่าด้วยภาพลักษณ์และชื่อเสียงที่สั่งสมมานาน,จำนวนแฟนคลับมหาศาลในโซเชียลมีเดีย และชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ ผู้เขียนจึงคิดว่าน่าจะเป็นปัจจัยหลักๆที่ทำให้แบรนด์ดังอย่างเนสเพรสโซตัดสินใจดึงเดวิด เบ็คแฮม มาร่วมทีมเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์
การเคลื่อนไหวแบบ “จัดใหญ่” ของเนสเพรสโซครั้งนี้ อาจมองว่าเป็นการโหมกลยุทธ์เชิกรุกในตลาดกาแฟของรุ่นใหม่ๆที่เล่นโซเชียลมีเดียกันมากในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ของเมืองผู้ดี ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจคนอังกฤษ 24,000 คน ก่อนหน้านี้ที่แสดงให้เห็นว่า “กาแฟแซงหน้าชา” ในฐานะเครื่องดื่มยอดนิยมในสหราชอาณาจักรได้เป็นครั้งแรก หลังจากตัวเลข 63% บอกว่าดื่มกาแฟร้อนเป็นประจำ ส่วนอีก 59% ดื่มชาเป็นประจำ
นอกจากนั้น ยังมีข้อมูลอีกว่ามูลค่าตลาดกาแฟอังกฤษสูงเกิน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปแล้วในปีนี้ มากกว่าตลาดชาถึง 2 เท่า
“แวดวงกาแฟในสหราชอาณาจักรถือเป็นตลาดที่มีชีวิตชีวาและน่าตื่นเต้นที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นี่คือประเทศของคนรักกาแฟ” แอนนา ลุนด์สตรอม ซีอีโอเนสเพรสโซ่ประจำอังกฤษและไอร์แลนด์ ให้สัมภาษณ์สื่อเดลี่ เมล์
เนสเพรสโซ “คาดหวัง” สิ่งใดจากอดีตตำนานนักเตะปิศาจแดงผู้นี้ ใช่ข้อหนึ่งข้อใดจากกลยุทธ์การตลาดเหล่านี้หรือไม่ เช่น ช่วยเพิ่มยอดขาย, เสริมแบรนด์ให้แกร่งขึ้น, โปรโมทผลิตภัณฑ์ใหม่, สร้างการรับรู้ในแง่ความยั่งยืนทางธุรกิจ และออกแคมเปญโฆษณาตอบโจทย์ผู้บริโภคแนวใหม่ หรือถูกทุกๆข้อ
เมื่อเดวิด เบ็คแฮม เป็นแบรนด์ แอมบาสเดอ์คนใหม่ แล้วแบรนด์แอมบาสเดอร์ตัวหลักคนปัจจุบันอย่างพระเอกดังฮอลลี้วู้ดที่ชื่อ “จอร์จ คลูนีย์” จะเอาไปไว้ที่ไหนล่ะ จะมีการเลิกสัญญากันหรือไม่/อย่างไร การมาของเบ็คแฮม หมายถึงการพักเบรค คูลนีย์หรือเปล่า
จอร์จ คลูนีย์ กับเนสเพรสโซ ร่วมงานกันมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2006 ที่ส่วนใหญ่เป็นภาพยนตร์แคมเปญโฆษณาโปรโมทเครื่องชงกาแฟและแคปซูลกาแฟ แถมเขายังเข้าไปเป็นโค-พาร์ทเนอร์และแชร์โฮลเดอร์ในเนสเพรสโซ ในปี 2013 อีกต่างหาก
ประเด็นนี้ สื่อฝรั่งก็สนใจกันมาก ตั้งคำถามไว้เหมือนกัน แต่ก็มีสื่อออนไลน์บางแห่ง “ฟันธง” ไปแล้วแบบสายล่อฟ้า อย่างชนิดไม่กลัวหน้าแหกและไม่กลัวทัวร์ลงว่า เดวิด เบ็คแฮม เข้ามาทำหน้าที่แทนจอร์จ คลูนีย์ แน่ๆ
สำหรับผู้บริหารเนสเพรสโซก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้แต่อย่าง แล้วก็ไม่ได้ส่งซิกส่งสัญญาณว่าจะเลิกสัญญาดาราดังฮอลลีวู้ด ประกอบกับล่าสุด คลูนีย์เองยังคงรับ “บทนำ” ในภาพยนตร์โฆษณาประจำปี 2023 ของเนสเพรสโซ ทำให้มีการคาดเดากันไปอีกแนวทางหนึ่งว่า แบรนด์กาแฟดังอาจวางแผนถ่ายทำแคมเปญโฆษณาตอนใหม่ ให้คลูนีย์กับเบ็คแฮม ร่วมแสดงด้วยกันก็เป็นไปได้
พล็อตโฆษณาอาจวางไว้แบบนี้ ใครจะรู้… เบ็คแฮมกับคลูนีย์ ยืนจิบกาแฟเนสเพรสโซด้วยกัน ขณะฝึกซ้อมยิงลูกฟรีคิก
เร็วๆนี้ เราคงได้เห็นเนสเพรสโซ แบรนด์ดังวงการเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล “เปิดตัว” แคมเปญโฆษณาตัวใหม่ออกมา อาจเป็นช่วงไฮซีซั่นอย่างเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ หลังการประกาศแต่งตั้งคนดังอย่าง เดวิด เบ็คแฮม เป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์
น่าสนใจยิ่งว่าจะออกมาแนวไหน จะมาแบบบินเดี่ยวหรือมาเป็นคู่บัดดี้ สัญญาว่าเมื่อถึงเวลานั้น จะนำมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้งหนึ่งครับ
facebook : CoffeebyBluehill
