เอสซีจี เปิดตัวโซลูชันตอบโจทย์ความต้องการในโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ด้วยนวัตกรรมหลากหลาย รวมถึง “สมาร์ทลิฟวิ่ง” นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยและชีวิตสะดวก สุขภาพดี และปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม
เมื่อไม่นานนี้ เอสซีจีจัดงาน SCG: The Next Chapter Exposition ที่สำนักงานใหญ่ บางซื่อ มีเหล่าวิทยากรและผู้บริหารหลากเจนเนอเรชัน จากหลายธุรกิจมาร่วมอัปเดตเทรนด์นวัตกรรมในอนาคต บนเวที “TALK ON STAGE คุย – คิด กับคนจริง – ครีเอท โซลูชันแห่งอนาคต”
หนึ่งในหัวข้อที่น่าสนใจ คือ “มารู้จัก SMART Living ธุรกิจเพื่อชีวิตอนาคต” ซึ่งมี 2 ผู้บริหารอย่าง วชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Service Solution Business ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และ อภิรัตน์ หวานชะเอม Chief Digital Officer ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง มาร่วมแชร์ว่าสมาร์ทลิฟวิ่ง (Smart Living Solutions) ช่วยให้ชีวิตผู้คนดีขึ้นได้อย่างไร
วชิระชัย กล่าวว่า สิ่งแรกที่สมาร์ทลิฟวิ่งตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนที่เปลี่ยนไป คือ “อากาศ” โดยเฉพาะในยุคโควิด 19 ซึ่งมีการแพร่เชื้อไวรัสผ่านอากาศที่อยู่รอบตัวและสูดหายใจกันทุกวัน เอสซีจีจึงคิดค้นนวัตกรรมฆ่าเชื้อในอากาศที่เรียกว่า “SCG Bi–ion” และได้ติดตั้งในหลายสถานที่สำคัญ เช่น ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ฯ ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุม APEC 2022 Thailand ศูนย์การค้า Terminal 21 Pattaya เพื่อคุณภาพของอากาศภายในอาคาร
SCG Bi-ion หรือระบบไอออนกำจัดเชื้อโรคในอากาศของเอสซีจี มีหลักการทำงานด้วยการปล่อยอนุภาคประจุบวกและลบ ที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคต่าง ๆ ในอากาศ เช่น เชื้อไวรัสรวมถึงตระกูลโคโรนาได้สูงสุดถึง 99%* และแบคทีเรียในอากาศ รวมถึงช่วยลดฝุ่น PM10-PM2.5
โดยอนุภาคไอออนนี้มีอยู่ตามธรรมชาติ จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อคนและสัตว์เลี้ยงขณะเปิดใช้งาน และมีการกำจัดเชื้อโรคแบบ Proactive ทันทีที่เปิดใช้เครื่องปรับอากาศ ทำให้มั่นใจในคุณภาพอากาศที่สะอาดปลอดภัยยิ่งกว่า
(*ผลการทดสอบจากห้องปฏิบัติการ โดย Innovative Bioanalysis, Inc. ในสหรัฐฯ เมื่อช่วงธันวาคม 2564– กุมภาพันธ์ 2565 ด้วยไวรัสโคโรนา SARS–CoV–2 สายพันธุ์ Omicron ผลทดสอบพบว่า สามารถลดปริมาณไวรัสลงสูงถึง 99.945% เมื่อเปิดใช้งานไป 90 นาที)
นอกจากนี้ วชิระชัย กล่าวถึงนวัตกรรม “SCG HVAC Air Scrubber” ที่ช่วยฟอกอากาศในอาคารและประหยัดพลังงานสูงถึง 30% เมื่อเทียบกับระบบปรับอากาศของอาคารแบบทั่วไป
“ถามว่าประหยัดพลังงาน 30% เยอะขนาดไหน เท่าที่คำนวณมา เราลดการปล่อยคาร์บอนได้ปีละ 530 ตัน หรือเทียบเท่าต้นไม้ 325,000 ต้น”
สำหรับ SCG HVAC Air Scrubber เป็นนวัตกรรมบำบัดอากาศเสียที่ลดภาระการทำความเย็นของระบบปรับอากาศ ช่วยให้คนที่อาศัยอยู่ในอาคารมีสุขภาวะที่ดี พร้อมลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมไปถึง ลดมลพิษในอากาศ ด้วยเทคโนโลยีดูดซับสารพิษกลุ่มก๊าซได้มากกว่า 30 ชนิด
ซึ่งระบบปรับอากาศแบบทั่วไปใช้การระบายอากาศอย่างเดียว และยังลดต้นทุนของระบบปรับและระบายอากาศลงได้อีกจำนวนมาก อีกทั้งช่วยให้อาคารได้คะแนนมาตรฐานอาคารสีเขียว (LEED Certified) และมาตรฐานอาคารสุขภาวะ (WELL Certified)
นอกเหนือจากโซลูชันด้านคุณภาพอากาศแล้ว นวัตกรรมเกี่ยวกับสุขภาพและความปลอดภัยก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน วชิระชัยได้สาธิตอุปกรณ์คล้องคอที่เรียกว่า “DoCare” หรือโซลูชันเฝ้าระวังสุขภาพและความปลอดภัยของผู้สวมใส่แบบเรียลไทม์ เช่น หากให้ผู้สูงอายุสวมใส่และเกิดหกล้มหรือรู้สึกไม่ค่อยดี สามารถกดปุ่มขอความช่วยเหลือ ซึ่งจะต่อสายไปโอเปอเรเตอร์ให้เรียกรถพยาบาลมารับได้ทันที
ทั้งนี้ DoCare ใช้เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) และ Digital Platform ที่เชื่อมต่อบ้านกับโรงพยาบาล ช่วยให้การดูแลสุขภาพและความปลอดภัยทำได้ที่บ้านง่ายแค่ปลายนิ้ว ระบบเก็บข้อมูลสุขภาพอัตโนมัติส่งตรงถึงโรงพยาบาล เช่น ความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด ระดับออกซิเจนในเลือด อุณหภูมิร่างกาย น้ำหนักตัว จึงสามารถติดตามอาการและปรึกษาแพทย์พยาบาลได้แบบเรียลไทม์ พร้อมระบบขอความช่วยเหลือและแจ้งเตือนทันทีเมื่อเกิดเหตุผิดปกติ เช่น หกล้ม (Fall Detection)
“นวัตกรรมที่พูดไปทั้ง 3 อย่างนี้ใช้งานจริงแล้วนะครับ โดยเฉพาะ DoCare ใช้ช่วยคนเกินกว่า 100 เคสไปแล้ว” วชิระชัย เผย
ขณะที่อภิรัตน์ กล่าวถึงสมาร์ทลิฟวิ่งในมุมมองของตนว่า คำว่า สมาร์ท ต้องประกอบด้วย 3 อย่าง ได้แก่ เทคโนโลยีที่ชาญฉลาดดูแลชีวิตคนให้ดีขึ้นได้ เทคโนโลยีที่ให้ทุกคน รวมถึงผู้พิการและผู้สูงอายุเข้าถึงได้ และเทคโนโลยีที่ใช้งานง่าย มีหน้าตาเป็นเอกลักษณ์สื่อถึงความเป็นไทย
จากนั้น อภิรัตน์ได้โชว์นวัตกรรม “เครื่องคิดเลขพูดได้ (ONE – Smart Calculator)” ที่คิดผลลัพธ์ได้ทันใจ ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้การคำนวณเป็นเรื่องง่ายไม่ซับซ้อน ใช้งานได้ทุกคนและทุกที่ ซึ่งถือว่ามีคุณสมบัติสมาร์ทครบทั้ง 3 ข้อที่กล่าวไป
นวัตกรรมเครื่องคิดเลขพูดได้ สั่งการด้วยเสียง ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ไขความซับซ้อนและลดเวลาในการหาคำตอบ เพียงแค่พูดก็จะทราบคำตอบทันทีผ่านระบบโต้ตอบที่เป็นภาษาไทย ในรูปแบบออฟไลน์ ช่วยเพิ่มโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่าย โดยเฉพาะกลุ่มผู้พิการทางสายตา ผู้ที่อ่านและเขียนหนังสือไม่ได้ โดยสามารถหาผลลัพธ์ของตัวเลขได้ตั้งแต่ บวก ลบ คูณ หาร ไปจนถึงระดับการถอดสมการ ซึ่งเทคโนโลยีสั่งการด้วยเสียงยังสามารถนำไปใช้กับเทคโนโลยีอื่น ๆ เพื่อทำให้สิ่งของเหล่านั้นสื่อสารและโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้
นอกจากนั้น อภิรัตน์ ยังกล่าวถึง “ก๊อกน้ำพูดได้ (ONE – Smart Faucet)” ซึ่งเป็นก๊อกน้ำระบบสั่งการด้วยเสียงช่วยให้ผู้ใช้งานสั่งเปิด-ปิดควบคุมการใช้น้ำได้สะดวก สร้างจิตสำนึกร่วมกันประหยัดน้ำ ขณะเดียวกันยังเป็นมิตรต่อผู้พิการทางสายตา และช่วยลดความเสี่ยงต่อการสัมผัสจุดร่วมที่มักปะปนไปด้วยเชื้อโรค
“Next Chapter ของเอสซีจี คือการที่เราอยากจะดูแลชีวิตลูกค้าให้มีความสุข เราเคยดูแลมาอย่างดีในเรื่องที่อยู่อาศัย ในอนาคตเราอยากดูแลชีวิตทั้งชีวิตเลย ไม่ใช่เฉพาะที่อยู่อาศัย” อภิรัตน์ กล่าว “เราจะเริ่มจากการออกแบบก่อน ต้องเข้าใจชีวิตคน ทำให้ใช้ง่าย เมื่อเข้าสู่ยุค IoT เราก็อยากดูแลในเรื่องสุขภาพ สมาร์ทลิฟวิ่ง และสมาร์ทซิตี้ด้วย”
รับชม “TALK ON STAGE: มารู้จัก SMART LIVING ธุรกิจเพื่อชีวิตอนาคต” ย้อนหลังได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=oVuE2AQzveU และสามารถติดตามนวัตกรรมและข่าวสารอื่นๆ ของเอสซีจีได้ที่ https://www.scg.com/esg/ https://scgnewschannel.com /Facebook: scgnewschannel / Twitter: @scgnewschannel หรือ Line@: @scgnewschannel