“เดอร์มาเช่” สกินแคร์เน้นคุณภาพ ส่งออกไปอาเซียนแล้ว คาด สิ้นปีนี้จะโต 3-4% เตรียมขยายไลน์โพรดักส์ไปยังกลุ่มเมคอัพ ภายในสิ้นปีนี้จะเห็นสินค้าตัวแรก
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า ในปี 2562 ธุรกิจเครื่องสำอางและสกินแคร์เป็นธุรกิจรุ่งมาแรงเป็นอันดับ 3 ซึ่ง ดร.นฤมล พุ่มฉัตร กรรมการผู้จัดการบริษัท วูเช่ จำกัด เจ้าของแบรนด์สกินแคร์ “เดอร์มาเช่” กล่าวในรายการ “ลับคมธุรกิจ” ทางคลื่นมิติข่าว 90.5 ว่า ภาพรวมธุรกิจเครื่องสำอางมีมูลค่าในตลาดสูงถึง 2.8 แสนล้านบาท มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยทุกปี ปีละ 7-8% และในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว ธุรกิจเครื่องสำอางก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะทุกวันนี้ผู้บริโภคทุกเพศ ทุกวัย ต่างดูแลใส่ใจสุขภาพมากขึ้น
และตอนนี้กระแสการทำผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติก็ไม่ได้ผ่านกระบวนการที่ต้องใช้เทคโนโลยีมาก ดังนั้นคนก็ให้ความสนใจทำธุรกิจด้านนี้ค่อนข้างกว้างขวาง ประกอบกับปัจจุบันการทำธุรกิจเครื่องสำอางไม่ได้ใช้ต้นทุนสูงมาก บางทีหลักหมื่นก็สามารถมีแบรนด์ของตัวเองได้ โดยไปจ้างโรงงานที่ทำ OEM บางคนก็ไปเรียนคอร์สสำหรับการผลิตเครื่องสำอาง ก็ได้สูตรมา หรือคิดค้นสูตรของตัวเอง
“เดอร์มาเช่” สินค้าคุณภาพดี ราคาเอื้อมถึง คาดภายในสิ้นปีนี้ จะเติบโต 3-4%
ดร.นฤมล กล่าวว่า “เดอร์มาเช” เพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ไป ก็ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ อัตราการเติบโตของเราน่าจะอยู่ที่ 3-4% ซึ่งเราเป็นผู้ผลิตเอง คิดสูตรเอง มีโรงงานและทีมวิจัยของตัวเอง ทำมาร์เก็ตติ้งเอง เพราะฉะนั้นการบุกตลาดของเรา จะเน้นคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก จะไม่ถึงขนาดเป็นแมสโพรดักส์เลยทีเดียว การที่เราผลิตเองทำให้เราสามารถควบคุมคุณภาพได้ ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบไปจนถึงเสร็จสิ้นกระบวนการส่งถึงมือผู้บริโภค
สำหรับวัตถุดิบของเราจะมาจากทุกแหล่งของมุมโลก เป็นสารสกัดที่ปลอดภัย ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. และมีงานวิจัยรองรับ สำหรับสมุนไพรไทย เราก็เลือกตัวท็อปมาใช้ในการทำผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นจุดเด่นของสินค้าไทย ไม่ว่าจะเป็น ว่างหางจระเข้ ขมิ้นชัน สาหร่ายทะเล หัวไชเท้า
นอกจากนี้ ยังมีอัญมณีที่เป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ เช่น เพชร ทอง ทองคำขาว เงิน อัญมณีสีชมพู อัญมณีสีน้ำเงิน ไข่มุก เป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีงานวิจัยรองรับ ผ่านมาตรฐาน อย. ซึ่งอัญมณีนั้นมีการนำมาใช้ตั้งแต่ยุคโบราณ และเราเอามาพัฒนาเป็นนวัตกรรมใหม่ๆ สามารถนำมาใช้ในเครื่องสำอางง่ายขึ้น เหมาะกับผิวคนไทย
ทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างแล้วไม่มีอาการแพ้ เราถึงเอามาผลิตขาย ความจริงสารสกัดพวกนี้ต้นทุนสูงมาก แต่เนื่องจากเป็นสารสกัดที่มีประสิทธิภาพมากและเข้มข้น เปอร์เซ็นต์หรือโดสในการใช้จึงไม่ได้เยอะมาก ซึ่งราคาขายอยู่ที่ 500-600 บาท เพราะเราอยากให้คนไทยได้ใช้สินค้าที่ดี ราคาไม่แพงมาก เอื้อมถึง ที่เราขายในราคานี้ได้ก็เพราะเราผลิตเอง ทำมาร์เก็ตติ้งเอง แต่ถ้าไปจ้างคนอื่นต้นทุนก็จะสูงขึ้น
ตลาดออนไลน์มาแรง ส่งออกไปอาเซียนแล้ว ส่วนจีนอยู่ระหว่างพูดคุย
การทำการตลาดของ “เดอร์มาเช่” ดร.นฤมล กล่าวว่า มี 2 ลักษณะ คือ ออนไลน์กับออฟไลน์ โดยออฟไลน์จะเป็นการออกบูธตามงานแสดงสินค้า มีการลงโฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์ และขายตรงผ่านตัวแทนจำหน่ายแบบชั้นเดียว ส่วนออนไลน์ตอนนี้กระแสมาแรงมาก ยอดขายดีกว่าออฟไลน์ โดยเราจะมีการโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดีย ไปแปะตามลิงก์บ้าง ที่สำคัญที่ทำให้เราได้รับกระแสตอบรับดีก็ต้องขอบคุณตัวแทนที่ช่วยกันกระจายทางออนไลน์ทั้งประชาสัมพันธ์เอง โฆษณาเอง ทำให้ตลาดของเราค่อนข้างโตเร็ว
โดยเราจะมีกฎระเบียบเป็นแนวทางให้ตัวแทนปฏิบัติในทางเดียวกันและอยู่ร่วมกันได้ เช่น ห้ามขายตัดราคา เรทในการขายต้องเท่ากัน ส่วนของปลอมก็เคยมีเป็นแบรนด์เก่า เราก็ต้องหาตัวให้เจอ ก็พูดคุยทำความเข้าใจ ให้ทนายจัดการไป และเราเลยเปลี่ยนแบรนด์ใหม่เพื่อยกระดับรองรับการส่งออกในอนาคตด้วย ตอนนี้เราส่งออกไปอาเซียนแล้ว ไปลาวและกัมพูชาแล้ว เร็วๆ นี้ จะไปจีน ซึ่งอยู่ระหว่างการพูดคุย
ขยายไลน์โพรดักส์ไปยังกลุ่มเมคอัพ ภายในปีนี้จะเปิดสินค้าตัวแรก
ดร.นฤมล กล่าวว่า “เดอร์มาเช่” ทำผลิตภัณฑ์หลักๆ 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มทำความสะอาดผิวหน้า 2.ดูแลผิวหน้า พวกครีมบำรุงผิว 3.ครีมกันแดด ปกป้องผิว และตอนนี้เรากำลังจะเปิดไลน์ใหม่ คือ กลุ่มเมคอัพ หรือเครื่องสำอาง เพราะมองเห็นว่าเป็นช่องทางที่จะขยายตลาดได้ ขยายไลน์โพรดักส์ได้ เพราะเป็นกลุ่มลูกค้าเดียวกัน ซึ่งภายในปีนี้กำลังจะเปิดตัวแรก
ทั้งนี้ คำแนะนำสำหรับผู้บริโภคที่จะเลือกซื้อเครื่องสำอาง มีดังนี้ 1.ดูผู้ผลิต แหล่งผลิตที่น่าเชื่อถือได้ 2.ดูฉลากสินค้า มีรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ครบถ้วน 3.สารสกัดที่เป็นส่วนผสมจะต้องผ่านการจดแจ้งจาก อย. ซึ่งสามารถตรวจสอบตัวเลขได้จากเว็บไซต์ของ อย. 4.ผลิตภัณฑ์นั้นต้องไม่โฆษณาโอ้อวดเกินจริง ดร.นฤมล กล่าวด้วยว่า เครื่องสำอางยังเป็นตลาดที่ไปได้ดี เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี และเป็นตลาดที่ติด 1 ใน 10 ของธุรกิจที่น่าลงทุน @
ภาพ : www.dermache.shop
