“พฤกษา โฮลดิ้ง” เผยผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก ปี 2567 ทำรายได้ 9,864 ล้านบาท ธุรกิจเฮลท์แคร์เติบโตต่อเนื่องในทุกมิติ ทำรายได้สูงขึ้น 19% เดินหน้าลงทุนตามแผน ก่อสร้างและเตรียมเปิดสถานพยาบาลต่อเนื่องอีก 6 แห่ง พร้อมแตกไลน์ธุรกิจ เปิดตัว “วิซลาห์ ทีเอช” อีมาร์เก็ตเพลสที่ครบทุกเรื่องของการตกแต่งภายในแบบครบวงจร
พลิกโฉมวงการออกแบบและตกแต่งบ้าน ด้วยสมาร์ตเฟอร์นิเจอร์ เทคโนโลยีเอไอ เออาร์ แบบสามมิติ ให้การแต่งบ้านเป็นเรื่องง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ต่อยอดการอยู่อาศัยที่ “อยู่ดี มีสุข” แบบครบวงจร
นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผล การดำเนินงานครึ่งปีแรกปี 2567 ว่า บริษัททำรายได้ 9,864 ล้านบาท รักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ดีที่ 33% และยังคงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุน (Net gearing ratio) ต่ำที่ 0.39 เท่า
ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในครึ่งปีแรก บริษัทฯ ทำยอดโอนได้ 8,310 ล้านบาท และทำยอดขายได้ 7,478 ล้านบาท โดยกลุ่มสินค้าประเภทบ้านเดี่ยวมียอดขาย 2,696 ล้านบาท เติบโตราว 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เปิดโครงการใหม่ รวม 6 โครงการ มูลค่า 7,509 ล้านบาท และในครึ่งปีหลังมีแผนเปิด 23 โครงการ มูลค่า 19,600 ล้านบาท
ซึ่งมีโครงการไฮไลท์สำคัญที่กำลังจะเปิดใหม่ ได้แก่ โครงการ “เดอะปาล์ม ทวีวัฒนา” บ้านเดี่ยวหรู 120 ตร.วา เชื่อมต่อถนนบรมราชชนนี-ปิ่นเกล้า และ “เดอะ ปาล์ม เรสซิเดนเซส พัฒนาการ” โครงการที่ได้รับการรับรองโดย Tree Certified Home ซึ่งจะทำให้ผู้อยู่อาศัยใช้ไฟน้อยลงกว่า 50% และยังเป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่เน้นเรื่องการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร ทุกโครงการออกแบบพื้นที่ใช้สอยเหมาะสมกับผู้อยู่อาศัยทุกเพศทุกวัย
โดยนำนวัตกรรมด้านการอยู่อาศัยเข้ามาใช้ในขณะที่ยังใส่ใจ ด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ บริษัทยังมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่าราว 4,900 ล้านบาท (คิดเป็น 65% ที่คาดว่าจะโอนได้ในปีนี้) และยังมีสินค้าที่ยังเปิดขายอยู่ มูลค่ารวม 62,577 ล้านบาท สามารถรองรับการเติบโตได้ถึง 2.5 ปี
เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรและแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง เพื่อต่อยอดธุรกิจก่อสร้าง และธุรกิจพรีคาสท์อย่างจริงจัง เพิ่มความคล่องตัวให้แต่ละหน่วยงาน เพื่อให้ทุกหน่วยงานสามารถบริหารจัดการ และมีอิสระในการวางแผนงานของตัวเองได้อย่างเต็มรูปแบบ
สำหรับธุรกิจก่อสร้างภายใต้ชื่อ “อินโน โฮม คอนสตรัคชั่น” ปัจจุบันเป็นบริษัทก่อสร้างโครงการบ้านแนวราบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มอบบริการด้านการก่อสร้างแบบเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One-stop Construction Service) สำหรับเจ้าของที่ดิน ปัจจุบันมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่ราว 2,800 ล้านบาท
ในขณะที่ธุรกิจพรีคาสท์ ภายใต้ชื่อ “อินโน พรีคาสท์” ปัจจุบันมีโรงงานพรีคาสท์สีเขียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และกำลังขยายศักยภาพการผลิตเพื่อรองรับการก่อสร้างคอนโดมิเนียมด้วย
โดยเป็นโรงงานที่มีการปล่อยของเสียเป็นศูนย์ (Zero Waste) ผลิตพรีคาสท์คาร์บอนต่ำแห่งแรก และได้รับการรับรองฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ Carbon Footprint Reduction (CFR) เป็นรายแรกและรายเดียวของอุตสาหกรรมในประเทศไทย ปัจจุบันมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่ราว 4,300 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทมองถึงการต่อยอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้ครบวงจร และได้เปิดตัว “วิซลาห์ ทีเอช” ธุรกิจให้บริการอีมาร์เก็ตเพลสที่ครบทุกเรื่องของการตกแต่งภายในแบบครบวงจรอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งได้ร่วมทุนกับ “ซันเรย์ กรุ๊ป” บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ก่อสร้าง และตกแต่งภายในครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์
เปิดตัว วิซลาห์ ซูเปอร์ แอปฯ ในชื่อ “Wizlah TH” อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มตัวกลางเชื่อมสถาปนิกและลูกค้าให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอีโคซิสเต็มการตกแต่งบ้าน มีจุดแข็งจากการนำเทคโนโลยี AI, AR และ 3D มาใช้ จำลองการตกแต่งภายในเพื่อวางเฟอร์นิเจอร์ในรูปแบบสามมิติเสมือนจริง ให้ลูกค้าเห็นภาพที่ชัดเจนก่อนสั่งชื้อได้
ซึ่งช่วยลด Pain Point ของลูกค้า จากความลังเลใจที่ไม่ได้เห็นและสัมผัสสินค้าจริง นอกจากนี้ ในส่วนของบริการออกแบบบิ้วอิน (Built-in) และ ฟิตอิน (Fit-in) ได้นำเทคโนโลยีผลิตจากโรงงานที่มีคุณภาพมาตรฐาน ใช้เวลาติดตั้งหน้างานด้วยระยะเวลาอันสั้น โดยลูกค้าสามารถ Customize ขนาดและสั่งผลิตให้พอดีกับพื้นที่ได้ ที่สำคัญไม่ทิ้งงาน 100% เพราะมีสถาปนิกคอยดูแลงานตั้งแต่ต้นจนจบ
“วิซลาห์ ซูเปอร์ แอปฯ ในชื่อ “Wizlah TH” จะเป็นตัวกลางในการรวบรวมผลงานออกแบบของสถาปนิก นักออกแบบ อินทีเรียดีไซน์เนอร์ และภูมิสถาปนิก ที่มากที่สุดในไทย ลูกค้าสามารถเข้ามาหาข้อมูลตกแต่งบ้าน หาไอเดียหรือแรงบันดาลใจในการออกแบบ เลือกซื้อสินค้าประเภทสมาร์ตเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน และอื่น ๆ ซึ่งนับว่าเป็นการพลิกโฉมวงการออกแบบและตกแต่งบ้าน ทำให้การแต่งบ้านเป็นเรื่องง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส พร้อมกันนี้ เราได้ต่อยอดธุรกิจ ด้วยการแนะนำบริการใหม่นี้ไปยังกลุ่มลูกค้าที่ซื้อที่อยู่อาศัยของพฤกษาด้วย” นายอุเทนกล่าวเสริม
ด้านธุรกิจเฮลท์แคร์ มีทิศทางเติบโตในทุกมิติ ทำรายได้ครึ่งปีแรก 1,013 ล้านบาท เติบโต 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 โดยมีรายได้สูงสุดในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเป็นการเติบโตทั้งจากรายได้ของคนไข้ในและคนไข้นอก ในเชิงการรักษาโรคที่มีความซับซ้อน และมีการผ่าตัดเพิ่มขึ้น ด้วยการพัฒนามาตรฐานให้เท่ากับโรงเรียนแพทย์ในระดับเดียวกัน รวมถึงการทำการตลาดออกสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ตะวันออกกลาง จีน และออสเตรเลีย
และในช่วงระหว่างปีที่ผ่านมา วิมุต ได้ร่วมทุนกับ “นำวิวัฒน์” เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ‘เซอร์วิโซ เฮลท์แคร์ โซลูชั่น’ บริการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อเพื่อให้เครื่องมือแพทย์ปราศจากเชื้อ บำบัดมูลฝอยติดเชื้อทางการแพทย์ และให้บริการด้านวิศวกรรมชีวการแพทย์
นอกจากนี้ วิมุตยังขยายฐานลูกค้าไปยังองค์กรขนาดใหญ่ ผ่านการเปิดตัวโปรแกรม วิมุต-นัลลูรี่ เพื่อดูแลผู้ใช้บริการป้องกันการเกิดโรคกลุ่มไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCD และการบริการแก่ลูกค้าบริษัทขนาดใหญ่ในไทย เพื่อสร้างการต่อยอดสู่โรงพยาบาลวิมุต นำเสนอการตรวจสุขภาพและการรักษาพยาบาลในกรณีที่ลูกค้ามีความสนใจเพิ่มเติม
รวมถึงได้ก่อตั้งห้องปฏิบัติการวิจัยไมโครไบโอมในลำไส้แห่งแรกในประเทศไทย โดยความร่วมมือกับ AMILI บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพด้านจุลชีพในลำไส้ที่มีความแม่นยำมากที่สุดแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนี้ วิมุตยังเดินหน้าตามแผนลงทุนมูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท เตรียมเปิดโรงพยาบาลเฉพาะทางย่านทองหล่อ 1 แห่ง และ เตรียมเปิดโรงพยาบาลดูแลผู้สูงวัย 2 แห่ง ย่านวัชรพลและแบริ่ง
และศูนย์ดูแลผู้ป่วยและผู้สูงวัยอีก 3 แห่ง ย่านแจ้งวัฒนะ พระราม 2 และจรัญสนิทวงศ์ ร่วมกับ เค.พี.เอ็น ซีเนียร์ ฮอสปิตัล กรุ๊ป ผู้นำด้านการดูแลสุขภาพผู้สูงวัย ทั้งหมดเพื่อเติมเต็มอีโคซิสเต็มในเครือพฤกษา ให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตตามกรอบแนวคิด “อยู่ดี มีสุข”