เมื่อออกเดินทางท่องเที่ยว คุณจะเข้าใจได้ว่าต้องการดูทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดในโลก หรือไม่ก็สำรวจหาดสวยทะเลใสของศรีลังกา หรือเยี่ยมชมมรดกโลกอันน่าตื่นตาตื่นใจของยูเนสโก อย่างไรก็ตาม ขณะที่การท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจของหลายประเทศ แต่ไม่ได้หมายความว่า มันจะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมเสมอไป
ประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยว เช่น ประเทศไทยต้องปิดชายหาดยอดนิยม และห้ามนักท่องเที่ยวเข้าชม เนื่องจากปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นนั่นเอง
ในความเป็นจริง งานวิจัยใหม่ๆ แสดงให้เห็นว่า การท่องเที่ยวมีส่วนทำให้เกิดภาวะโลกร้อนประมาณ 4.6% แต่ข่าวดีก็คือ มีวิธีที่คุณสามารถมีผลกระทบในเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมขณะเดินทางท่องเที่ยว และช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้
เพื่อช่วยให้คุณได้รับความช่วยเหลือ www.rickshawtravel.co.uk เว็บไซต์ที่เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวได้แชร์เคล็ดลับยอดนิยมสำหรับการช่วยเหลือด้านสิ่งแวดล้อมในช่วงวันหยุดพักร้อนของคุณ
เคล็ดลับการท่องเที่ยวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทีอะไรกันบ้าง คุณสามารถทำได้บ้างหรือไม่ ลองตามมาดูกันได้เลย
1. เริ่มเดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง
ไม่เป็นความลับที่เครื่องบินไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น หากเป็นไปได้…ให้เลือกเที่ยวบินตรง นอกจากนี้ คุณยังสามารถลดช่วยขยะพลาสติกได้ โดยนำขวดน้ำลดโลกร้อน (ECO Water Bottles) และขนมของว่างของคุณเองติดขึ้นเครื่องไปด้วย
2. ปรับสไตล์การเดินทางท่องเที่ยว
เมื่อเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ให้ลองปรับไปใช้พลังงานปั่นอย่างรถจักรยานแทนการใช้รถยนต์ การท่องเที่ยวด้วยจักรยานหรือเดินเท้าเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมต่อสภาพแวดล้อมและช่วยให้คุณสำรวจรายละเอียดข้างทางได้มากขึ้นแน่นอน ถ้าคุณเริ่มเดินทางไกล คุณก็ไม่อาจทำในสิ่งนี้ได้ แต่ทางเลือกคือ พยายามใช้ระบบขนส่งสาธารณะในท้องถิ่นที่คุณสามารถทำได้ และเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้คุณได้มองเห็นวัฒนธรรมท้องถิ่นและชีวิตประจำวันของคยในชุมชนนั้นๆ
3. พยายามลดผลกระทบเชิงลบ
มหาสมุทรอันบอบบางของเรา มีเศษขยะประมาณ 5 ล้านล้านชิ้น ที่ล่องลอยอยู่บนพื้นผิวทะเล และจนกว่าเราจะคิดออกว่าจะทำอย่างไรกับพลาสติก ปัญหามันอาจรุนแรงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ขยะมีผลกระทบมหาศาลบนโลกของเรา ดังนั้น หลังจากที่ได้พยายามทุกวิถีทางในการเดินทางไปทั่วโลก คุณควรใช้ความพยายามอย่างมากในการรักษาวิธีนี้ไว้
การได้ทำในสิ่งที่อาจจะดูแล้วเล็กน้อย และเรียบง่าย สามารถสร้างความแตกต่างได้ เช่น หลีกเลี่ยงการซื้ออาหารในบรรจุภัณฑ์ที่มากเกินจำเป็น การนำขวดที่ใช้ซ้ำได้มาใช้แทนการซื้อน้ำดื่มบรรจุขวด และถ้าอยากกาแฟขึ้นมา ก็นั่งจิบที่ร้านเสียเลย หรือนำแก้วเซรามิคของคุณเองไปใส่ ปฏิเสธไปได้เลยสำหรับกาแฟแบบ takeaway
อย่าลืมว่า น้ำอาจเป็นสินค้าที่หาได้ยากในบางแห่ง ดังนั้น ‘มารยาทที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม’ (eco-etiquette) จึงบอกได้ว่า คุณทำอะไรได้บ้างโดยการอาบน้ำชำระร่างกายให้พอเหมาะพอควร และสำหรับผ้าขนหนูและผ้าปูเตียง ถ้าไม่สกปรกมากเกินไป ก็สามารถนำมาใช้ได้อีก
4. สำรวจตรวจตราโรงแรมที่พัก
ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีป้าย ‘สีเขียว’ ที่ติดหราอยู่ในขณะนี้ ตั้งกาแฟของคุณไปยังเครื่องซักผ้า จากผู้ให้บริการทัวร์ไปที่โรงแรมที่พักแต่จะมีสักกี่แห่งที่ทำธุรกิจได้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเหมือนทื่ได้โฆษณาไว้ แต่คุณเองนั่นแหละ สามารถเลือกการเดินทางแบบ “สีเขียว” ที่แท้จริง เป็นวิธีที่ทำให้ยิ้มเต็มอิ่มให้กับ “แผ่นดินแม่” ได้เต็มภาคภูมิ ดังนั้น มองข้ามคำโฆษณาไปได้เลย การเลือกโรงแรมขนาดเล็กที่ดำเนินกิจการในท้องถิ่น เป็นอีกทางเลือกที่ดีในการเพิ่มคะแนนทางการปฏิบัติต่อสิ่งแวดล้อมของคุณ
5. เล็งเห็นคุณค่าชุมชนท้องถิ่น
ไม่ว่าคุณจะไปที่ใด โปรดตรวจสอบว่าการเดินทางท่องเที่ยวหรือจับจ่ายใช้สอยมีประโยชน์มากกว่าปัญหาสำหรับชุมชนท้องถิ่น ตัวอย่างเช่น หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจเป็นอันตรายต่อสัตว์ หรือไม่เคารพต่อความเชื่อและวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น
6. พิจารณาอาหารที่ซื้อกิน
สำหรับคนส่วนใหญ่ อาหารมักเป็นไฮไลท์แรกๆ ของการผจญภัยอันแปลกใหม่ เนื่องจากสามารถนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวัฒนธรรมและยังทำให้ค้นพบสิ่งใหม่ ๆ การซื้ออาหารในท้องถิ่นไม่เพียงแต่สนับสนุนกลุ่มคนที่เป็นผู้ผลิต อย่างไรก็ตาม โปรดแน่ใจว่าคุณได้เช็ค “อาหารจานเด็ด” ก่อนที่คุณจะกลืนลงท้องไป และตรวจสอบว่าอาหารของคุณไม่ได้จากสัตว์ที่กำลังใกล้สูญพันธุ์
7. เลือกซื้อของที่ระลึกให้เหมาะสม
ไม่มีอะไรที่เหมือนกับการนำเครื่องประดับเล็ก ๆ และสมบัติที่พบในระหว่างการผจญภัย เพื่อทำให้วันหยุดพักร้อนอันแสนสั้นของคุณดูมีคุณค่ามากขึ้นช่วยให้มั่นใจว่าเงินที่ใช้ในการท่องเที่ยวของคุณเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจท้องถิ่น แต่อย่าซื้ออะไรที่เป็นสาเหตุให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม โปรดตระหนักว่า ปะการัง และสัตว์ทะเลอย่าง หอยหรือเต่า เป็นสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในมหาสมุทร ไม่ใช่อยู่บนหิ้งในบ้านของคุณ
8. เปลี่ยนจากครีมกันแดดมาใส่ชุดว่ายน้ำ
ถ้าเป็นไปได้ ให้เลือกชุดว่ายน้ำที่ช่วยป้องกันอันตรายจากแสงแดด ขณะที่ใช้เวลาอยู่ในทะเลต่างไปจากครีมกันแดดซึ่งล้างออกได้ เสื้อผ้าที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวี จะช่วยปกป้องผิวได้นานขึ้น เมื่อคุณว่ายน้ำหรือดำน้ำดูปะการัง ที่สำคัญมากๆ คือ ไม่มีสารเคมีตกค้างที่จะเป็นอันตรายต่อแนวปะการังที่มีค่า และสิ่งมีชีวิตในทะเล
9. เก็บขยะพลาสติกบนชายหาด
หากทุกคนเก็บชิ้นพลาสติก หรือวัตถุไม่สามารถย่อยสลายได้ทุกครั้งที่อยู่บนชายหาด เราก็จะมีชายฝั่งที่บริสุทธิ์สะอาดในเวลาไม่นานนัก
เรื่องนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันของเสียหรือสิ่งสกปรกจากการหลุดไหลลงสู่ทะเล เป็นขยะในมหาสมุทร และเป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเล นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความสวยงามและดึงดูดใจนักท่องเทื่ยวได้อีกด้วย …เชื่อว่าคุณทำได้
10. รีไซเคิลในชีวิตท่องเที่ยว
หากไม่แน่ใจว่าจุดหมายปลายทางที่คุณกำลังเข้าไปพัก มีความสามารถด้านการรีไซเคิล คุณก็อาจหิ้วสิ่งเหล่านี้กลับบ้านได้เลย ไม่ว่าจะเป็นกล่องใส่อาหาร หรือกระป๋องน้ำอัดลม หรืออะไรก็ตามที่สามารถนำไปแปลงสภาพเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ต่อได้ แน่นอนว่า ไม่มีข้ออ้างใดๆ ที่จะทิ้งของเสียเหล่านี้ไว้ข้างหลังคุณ
ชาลี วาระดี
แปลและเรียบเรียงจากเว็บไซต์
https://www.mirror.co.uk/travel/europe/how-eco-friendly-travelling-experts-12621557
