ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้วครับ… ไม่ใช่เฉพาะแต่มืออาชีพอย่างบาริสต้าเท่านั้นที่ให้ความสำคัญกับ 4 ปัจจัยสำคัญในการชงกาแฟจากเมล็ดกาแฟคั่วบด (ก็กาแฟสดนั่นแหละ…)
แต่มือชงกาแฟแบบบ้านๆ อย่างเราๆ ท่านๆ ก็สามารถชงกาแฟได้ออกมาอร่อย รสชาติกลมกล่อม กลิ่นหอมยั่วยวนรัญจวนใจได้ ปัจจัยทั้ง 4 ข้อ ได้แก่
- เครื่องชงกาแฟ / Coffee Maker
- เครื่องบดกาแฟ / Coffee Grinder
- เมล็ดกาแฟ / Coffee Bean
- วิธีชงกาแฟ / How to brew Coffee
หากนำหลักทั้ง 4 ข้อมาใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม ขาดอย่างหนึ่งอย่างใดไปไม่ได้ โดยเฉพาะกับเครื่องเมล็ดบดกาแฟที่หลายๆ คนมองข้ามไป เพราะส่งผลโดยตรงต่อรสชาติของกาแฟไม่แพ้องค์ประกอบอื่นๆ
เครื่องชงกาแฟกับระดับการคั่วนั้นมีความสัมพันธ์กันแนบแน่น เช่น ถ้าเป็นกาแฟคั่วอ่อนถึงกลาง (Light – Medium Roasted) บดละเอียดปานกลาง (Medium-Fine Grind) ถึงบดหยาบ (Coarse Grind) ใช้กับอุปกรณ์ชงกาแฟพวก Slow Drip, Auto, Drip, Syphon Coffee, Chemex และ French Press หรือถ้าเป็นกาแฟคั่วเข้มบดละเอียดก็ใช้กับเครื่องชงประเภทเอสเพรสโซ ฯลฯ
ถามว่า หากมันไม่สัมพันธ์กันล่ะ กินกาแฟได้ไหม ตอบว่า..กินได้ครับ
แต่หากใช้ให้ถูกหลักถูกวิธีการแล้ว เราสามารถรีดคุณสมบัติของกาแฟออกมาได้อย่างเต็มฟอร์มและครบเครื่องกว่า … ก็เหมือนโค้ชนักฟุตบอลนั่นแหละครับ พอถึงเวลาลงสนาม ก็ต้องพยายามรีดฟอร์มนักเตะออกมาให้หมด…
ตามหลักแล้วเครื่องบดเมล็ดกาแฟนั้น ควรใช้ให้เหมาะสมกับประเภทเครื่องชงกาแฟด้วย เช่น เกิดเปิดร้านกาแฟ คนรอคิวซื้อเพียบ แต่ดันไปใช้เครื่องบดเมล็ดกาแฟขนาดเล็ก นอกจากไม่ทันขาย ไม่ทันกินแล้ว ยังอาจใช้งานมอเตอร์เครื่องบดจนร้อนจัดเกินไป ผงกาแฟที่ได้อาจร้อนหรือไหม้ได้ ผงกาแฟบดที่ร้อนมีคุณสมบัติคลายกลิ่นออกมาเร็วกว่ากาแฟบดที่ไม่ร้อน ทำให้คุณภาพกาแฟทั้งกลิ่นทั้งรสชาติ เสื่อมเร็วไปนั่นเอง
ถ้าชงกินเองคนเดียว ก็อาจใช้เครื่องบดแบบมือหมุน หมุนไปๆๆๆ เหนื่อยนิดเหนื่อยหน่อย ก็ทนเอา ถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัว ถ้าชงกินกันเองในครอบครัวหรือเลี้ยงเพื่อนฝูง 3-4 คน ก็ปรับไปใช้เครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบไฟฟ้าจะเหมาะกว่า เดี๋ยวนี้ซื้อหาง่าย มีหลายเกรดหลายราคา
@ ขนาดเครื่องบดเมล็ดกาแฟ ก็มีตั้งแต่เล็กพกพาสะดวก ใช้ในร้านกาแฟ หรือเป็นระดับอุตสาหกรรม แต่โดยสรุปแเล้ว แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท
- Blade Grinder
เป็นเครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบใบมีด ใช้มอเตอร์หมุนใบมีดเพื่อบดเมล็ดกาแฟ ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก ทำความสะอาดง่าย ทว่าข้อเสียคือ ได้กาแฟบดไม่ค่อยสม่ำเสมอ จึงไม่เหมาะยิ่งกับเครื่องชงที่ต้องการกาแฟบดละเอียดอย่าง Espresso แต่หากบดแบบค่อนข้างหยาบหรือหยาบ นำไปใช้กับกาแฟวิถี slow life อย่าง Chemex และ French Press ก็ยังพอได้อยู่ ….
- Conical Burr Grinder
เป็นเครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบมีเฟืองบดทั้งแบบสเตนเลสและเซรามิค ออกแบบให้มีเฟืองบด 2 ชิ้นสวมเข้าหากัน มีทั้งใช้ไฟฟ้าและมือหมุน ความละเอียด-หยาบของกาแฟบดขึ้นอยู่กับการปรับระยะห่างระหว่างฟันบดทั้ง 2 ชิ้น ถ้าปรับห่างกัน ก็ได้กาแฟบดหยาบ ถ้าใกล้กันก็ละเอียด บดผงกาแฟได้สม่ำเสมอ จึงได้รับความนิยมมากกว่าชนิดแรก
- Flat Plate Burr Grinder
เป็นเครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบมีเฟืองบด 2 ชิ้นประกบกัน ส่วนใหญ่จะใช้ระดับ commercial มีฟังค์ชั่นให้ปรับความหยาบ-ละเอียดของการบดได้หลายระดับ จึงสกัดเอากลิ่นและรสชาติของกาแฟออกมาได้ดี
….พออ่านข้อเขียนนี้จบแล้ว ท่านผู้อ่านเกิดนึกอยากได้เครื่องบดเมล็ดกาแฟขึ้นมาสำหรับใช้ที่บ้านหรือออฟฟิศ ก็ขอแนะนำว่า ควรเป็นแบบมีเฟืองบด “Burr Type” ถ้าเป็นเครื่องบดมียี่ห้อมีแบรนด์ เขาจะระบุประเภทเอาไว้ รวมทั้งชนิดฟันเฟืองบดด้วยว่าเป็นวัสดุแบบไหน ไม่แนะนำใช้ใบมีดบดเมล็ดกาแฟแบบเดียวเครื่องปั่นน้ำผลไม้
ก็อย่างที่บอกไว้ครับ เครื่องบดเมล็ดกาแฟ ส่งผลโดยตรงกับรสชาติกาแฟ จึงสำคัญไม่แพ้องค์ประกอบอื่นๆ ในการปรุงกาแฟเลย…@
facebook : CoffeebyBluehill