สัมภาษณ์: คุณพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านผลิตสื่อ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และรองประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43
โดยดร.นงค์นาถ ห่านวิไล
ดร.นงค์นาถ : คอนเซ็ปต์งาน Motor Show 2022 สะท้อนเรื่องอะไรบ้าง
คุณพีระพงศ์ :คอนเซ็ปต์ ในปีนี้เราจะใช้ว่า “ก้าวด้วยกันไปด้วยใจไปได้ไกล keep moving forward together” เพื่อสะท้อนยุคโควิดที่เรากำลังเผชิญอยู่กันมาหลายปีแล้ว ปีนี้ก็สถานการณ์โควิดก็ยังมี คนที่ติดเชื้อเพิ่มอยู่ค่อนข้างเยอะ แต่เนื่องจากว่าเรามีการป้องกัน และมีการฉีดวัคซีนหรือเรามีการที่เรียนรู้ในเรื่องของตัวการที่จะอยู่กับโควิดแล้ว คิดว่าในจังหวะนี้เป็นจังหวะที่เราทุกภาคส่วนจะต้องก้าวไปด้วยกัน ทั้งเราเองเราในฐานะผู้จัดก็สร้างความพร้อม และก็สร้างความเชื่อมั่นว่าการจัดงานจะจัดด้วยความปลอดภัย และก็มีมาตรฐาน ลด และป้องกันการที่คนเข้ามาร่วมงาน ก็จะมีเรื่องการได้รับเชื้อต่างๆ ก็พยายามป้องกันให้ได้ดีที่สุด
ในส่วนของผู้จัดเองหรือว่าประชาชนคนที่เข้ามาชม หมายถึงว่าในงานนี้เราอยากขับเคลื่อนในอนาคตของเราไปด้วยกัน เรามาช่วยกัน ไม่ใช่ว่าเฉพาะผู้จัดเพียงอย่างเดียวแต่เป็นทุกภาคส่วนที่จะต้องมาร่วมมือกัน ซึ่งในงานนี้เอง ทางเจ้าหน้าที่เอง ที่เราประจำบูธต่างๆ หรือผู้จัดทำเราก็มีการตรวจ ATK แล้วทุกๆ 3 วันอยู่แล้ว ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างเลย และก็มีการลงบันทึกประวัติมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด สำหรับผู้ชมจะต้องตรวจวัดอุณหภูมิ และต้องได้รับวัคซีนครบสองเข็ม ถ้าได้รับสองเข็มแล้วสามารถให้ผ่านเข้าได้ ก็ถ้าเกิดไม่มีเราก็จะมีจุดที่ตรวจที่อยู่ด้านหน้า เราจะแยกจุดที่ตรวจกับจุดที่เข้างานให้ต่างกันชัดเจน อาจจะต้องไปตรวจก่อน ถ้าตรวจผ่าน ATK ผ่านก็ถึงจะให้เข้างานได้
ดร.นงค์นาถ :งานปีนี้คึกคักแค่ไหน
คุณพีระพงศ์: เราดูจากกระแสจากคนที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันของเราที่ได้บัตรเข้ามา แล้วก็รวมถึงคนซื้อบัตรเข้ามา อย่างคนที่ซื้อบัตรสองวันแรก เราเช็คจากยอดมีจำนวนมากกว่าปีที่แล้ว ประมาณสัก 30-40% กระแสค่อนข้างดี คนก็เข้ามาก็ให้การตอบรับดี เพราะเราคิดว่าเนื่องจาก เป็นงานใหญ่งานแรกที่เราจัดหลังปีใหม่มายังไม่มีงานใหญ่ๆ ที่จัดขึ้นมาเลย
เรื่องรถตอนนี้ รถยนต์ EVก็เป็นกระแสที่คนให้ความสนใจ ในเรื่องการของใช้รถต่างๆ เพราะเนื่องจากปัจจุบัน มีเรื่องของน้ำมันแพงเข้ามาจากภาวะสงคราม ทำให้คนก็เริ่มมาสนใจรถEVมากขึ้น
ดร.นงค์นาถ : มีเป็นโซน EV เฉพาะเลยใช่ไหม
คุณพีระพงศ์: นอกจาก EV ที่โชว์อยู่แต่ละบูธแล้ว เรามีจัดเฉพาะโซนที่มีเฉพาะ EVอยู่อีกโซนหนึ่ง ซึ่งก็สามารถจะไปเรียนรู้หรือเข้าไปขอข้อมูลต่างๆ ได้ เพราะในการใช้รถ EV นี้ ไม่ใช่แค่รถอย่างเดียว มันเป็นเรื่องของการชาร์จ เรื่องของการติดตั้งที่ชาร์จที่บ้านอีก และระบบต่างๆ หลายอย่าง เนื่องจากการใช้กระแสไฟฟ้าแรงดันค่อนข้างสูง ก็เลยต้องมีความปลอดภัยในเรื่องอะไรต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ก็มีจุดที่สามารถเรียนรู้ได้โดยเฉพาะเลย
ในงานนอกจากรถ EV ที่มาขายจากบริษัทแล้ว ก็จะมี EV ที่ดัดแปลงจากรถเก่า จากเครื่องยนต์สันดาปมาเป็นรถ EV ก็มีมาโชว์ด้วย งานนี้จึงมีพวกนวัตกรรม EV ใหม่ๆ เข้ามาเยอะ และรวมถึงรัฐบาลก็เพิ่งประกาศ ในเรื่องของส่วนลดที่ดีลกับบริษัทรถในบางบริษัทแล้ว ก็ทำให้ราคารถที่ขายอยู่อาจจะลงมาราคาหนึ่งแสนกว่าบาท
ดร.นงค์นาถ : รถยนต์ EV ที่มาร่วมงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้มีประมาณกี่ค่าย
คุณพีระพงศ์: มีเยอะเฉพาะ EV ก็มีประมาณ7-8ค่าย มีทั้งพวกโตโยต้าแต่อาจจะยังไม่ได้มี EV เพียวๆ มาขาย แต่ก็มีตัวที่เขาตั้งใจจะขายนำมาโชว์ คือ อย่าง LEXUS
ดร.นงค์นาถ : คือ ในญี่ปุ่นก็มีแล้วใช่ไหม
คุณพีระพงศ์ : ก็เริ่มมีขายแล้วในงานก็จะเป็นตัวโชว์มาให้ดูก่อน แล้วก็ของMGเขาก็มีอยู่แล้ว จริงๆ ตอนนี้ค่ายส่วนใหญ่ ก็มีหลากหลายราคา ซึ่งตั้งแต่ราคาระดับไม่ถึงล้านบาท
ดร.นงค์นาถ : สำหรับ EV ขณะนี้มีของ ปตท. ด้วยใช่ไหม อรุณพลัส (ARUN PLUS)
คุณพีระพงศ์: คือ เขามาโชว์ในเรื่องของอนาคตของ ปตท.หรืออรุณพลัส ว่าจะทำอะไร ซึ่งปัจจุบันมีแพลตฟอร์มที่เขาเตรียมไว้ว่าจะให้มีให้เช่ารถ EV ซึ่งร่วมมือกับพาร์ทเนอร์หลายเจ้าคือ เป็นการที่เช่าผ่านแอปพลิเคชันให้คนสามารถที่จะเลือกเช่าไปใช้ได้ รวมถึงจะมีตัวแพลตฟอร์มที่ร่วมกับFoxconnที่เชี่ยวชาญในเรื่องเกี่ยวกับแพลตฟอร์มในตัวของEVอาจจะมาเปิดตลาดดู ถ้าใครสนใจ บริษัทไหนสนใจที่อยากจะผลิตรถEVขึ้นมาก็ใช้แพลตฟอร์มเดียวกับเขา แล้วก็ที่เหลือก็อาจจะรับผลิตตัวถังอื่นๆ ให้ได้เลย ถือเป็นการเปิดตัวของทาง ปตท. และอรุณพลัสเป็นบริษัทในเครือ ที่นำเสนอทิศทางในอนาคตของเขาจะเป็นยังไง
ดร.นงค์นาถ: ช่วงนี้เป็นช่วงของการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาปไปสู่รถEVแล้วใช่ไหม
คุณพีระพงศ์: เรียกว่ายุคเริ่มต้นดีกว่า ช่วงเริ่มต้นคงใช้เวลาสักระยะหนึ่งเหมือนกันคงไม่ได้เร็วๆ นี้ เพราะมีเรื่องของกระแสไฟฟ้า เรื่องของความปลอดภัยต่างๆ ที่จะเปลี่ยนจุดแท่งชาร์จ กว่าจะมีครบเพื่ออำนวยความสะดวกจริงๆ แล้วหรือเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จได้เร็วกว่าปัจจุบัน คิดว่าทุกอย่างกว่าจะพัฒนาเพื่อให้ใช้งานได้ค่อนข้างสะดวกเหมือนรถน้ำมันก็คงต้องใช้ระยะเวลาสักพักหนึ่ง
ตอนนี้จะเห็นว่า บริษัทรถต่างๆ ถึงแม้ว่าจะมี EVเข้ามาแต่ก็อาจจะเริ่มจากหนึ่งโมเดล เริ่มเปลี่ยนทีละโมเดลแต่กว่าจะครบทุกๆ โมเดลของแต่ละแบรนด์อีกก็ค่อนข้างใช้เวลา มันก็เหมือนเรานึกย้อนไป ตัวไฮบริดที่มาในเมืองไทยทีแรก ก็เป็น 10 กว่าปีแล้ว สมัยนั้นที่มีไฮบริดรุ่นแรกของ Honda Civic ที่ Honda นำเข้ามาและจนถึงมาเป็นปลั๊กอินไฮบริดจนมาถึงเป็นEVค่อนข้างใช้เวลาพอสมควร แต่พอเป็นยุคนี้ การเปลี่ยนแปลงยุคปัจจุบันอาจจะรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม
ดร.นงค์นาถ : มีรถยนต์รุ่นใหม่ๆเปิดตัวในงานนี้ด้วยใช่ไหม มีอะไรบ้าง
คุณพีระพงศ์ : สำหรับรถยนต์ที่เป็นรุ่นใหม่ๆ ก็จะมีอย่างเช่นตัวFordที่เพิ่งมาเปิดในงานเราเลย ในส่วนของFord Ranger, Ford Everestและก็Raptor อันนี้ก็เป็นโมเดลที่เข้ามาใหม่เลยที่เข้ามาเปิดในงาน และนอกจากนั้นก็จะมีในส่วนของ AUDI RS7 SPORTBACK หรือว่าจะเป็น Q7 แล้วก็ในส่วนของToyota Veloz, Hyundai Creta ซึ่งก็จะเป็นSEVขนาดเล็กรุ่นใหม่หรือว่าจะในส่วนของ BMW ก็จะมีในเรื่องของ BMWi4 อันนี้รถไฟฟ้ากับ IS ที่เป็นรถไฟฟ้าเหมือนกัน แล้วก็ Ora Good Cat GT นี่ก็จะเป็นรถไฟฟ้า ก็จะมีในส่วนของเครือ Great Wall ก็จะมีตัวรถที่ชื่อว่า TANK 300 SUV จะเป็นรถสไตล์น่าจะหน้าตาคล้ายๆ เป็นSEVหน้าตาคล้ายๆ แบบรถJeepหน่อย นี่ก็เป็นรุ่นใหม่ที่เขานำมาโชว์ในงาน แล้วก็ถ้าเป็นรถหรูๆ จะเป็นในส่วนของ Mercedes Benz C Class เพิ่งเปิดตัวใหม่ จริงๆ ก็ในงานเกือบจะทุกข่ายมีการเปิดตัวรถใหม่
ดร.นงค์นาถ : ในงานนี้ถือว่าค่ายรถยนต์เกือบทุกค่ายมากันหมดเลยใช่ไหม ไม่ต้องไปดูตามโชว์รูมต่างๆ ที่นี่ที่เดียวครบ
คุณพีระพงศ์ : ใช่ เพราะจะมีรถที่ให้เลือกชมได้หลากหลายรุ่นด้วย บางที่ไปโชว์รูมอาจจะมีโมเดลรุ่นหนึ่งมีคันหนึ่ง แต่ที่นี่จะมีโมเดลหนึ่งหลากหลายรูปแบบให้ดู แล้วรวมถึง ถ้าสนใจจริงๆ อยากจะทดลองขับจริงๆ เราก็จะมีลานที่สามารถขับได้
ดร.นงค์นาถ : ตอนนี้เห็นมีพวกรถ SUV มาแรงเหมือนกันในงานนี้ มีหลายค่ายมาโชว์
คุณพีระพงศ์ : เพราะว่าช่วงนี้มีกระแสในเรื่องของการท่องเที่ยวในประเทศ แล้วก็เรื่องของไลฟ์สไตล์ ไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ แล้วก็เรื่องของการที่กลัวในเรื่องของโควิด ก็ทำให้การไปเที่ยวกิจกรรมเอาท์ดอร์ ไปแคมป์ปิ้ง ซึ่งถ้าสังเกตงานนี้ มีกระบะรถยกสูงต่างๆ พวกนี้เกือบทุกค่ายเลย จะมีการตกแต่งเอาเต็นท์ไว้ในรถ มีแคมป์ปิ้งเป็นส่วนประกอบหนึ่งของในบูธเลย ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่า กระแสตอนนี้ในเรื่องของการท่องเที่ยวเอาท์ดอร์ ไลฟ์สไตล์เป็นที่นิยมจริงๆ แล้วก็การใช้รถปัจจุบันคิดว่าคนเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปแล้ว เราจะเห็นเทรนด์รถยุคใหม่ๆ รถSEVหรือจะเป็นทั้งเล็กทั้งใหญ่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่า อาจจะตอบโจทย์ของการรถใช้ที่อาจจะไม่ได้แบบใหญ่โตเหมือนรถกระบะ แต่ว่าด้วยการใช้งานอเนกประสงค์มากกว่ารถเก๋งทั่วไป ก็คนจะให้ความสนใจรถประเภทนี้มากยิ่งขึ้น
ดร.นงค์นาถ : ตั้งเป้ายอดจองในงานสักกี่คัน
คุณพีระพงศ์ : คิดว่าอาจจะสัก 3 หมื่นคัน จากที่เดิมที่ตอนโควิดปีแรก ยอดลงไปถึงประมาณไม่ถึงสองหมื่นคัน แต่ปีที่แล้วก็เริ่มมาขยับขึ้นบ้าง ถ้าเทียบกับสถานการณ์ปกติ ที่เราเคยได้ สี่หมื่นถึงห้าหมื่นคัน คิดว่าปีนี้ก็น่าจะดี
ดร.นงค์นาถ : งานมีถึง 12 วัน มีจนถึงวันที่ 3 เมษายน ใช่ไหม และก็เห็นมีแอปพลิเคชัน คาร์บัดดี้บาย จีพีไอ ด้วย แอปพลิเคชันนี้ทำอะไรได้บ้าง
คุณพีระพงศ์ : ทีนี้แอปพลิเคชันนี้เป็นแอปพลิเคชันที่เอาไว้สำหรับค้นหาอู่รถหรือเซอร์วิสต่างๆ อย่างสมมติว่าเรามีรถ เรามีแอปพลิเคชันนี้ก็เวลารถเรามีปัญหาอะไรสักอย่าง ไปร้านบริการเปลี่ยนยางหรือว่าจะไปคาร์แคร์หรือมีอะไหล่เสีย กระจกเสีย แอร์เสียหรืออยากจะเข้าอู่ในตัวแอปพลิเคชันก็จะรวบรวมอู่ทั้งหมดที่มีอยู่ ซึ่งในปัจจุบันเรามีอู่ในตัวแอปพลิเคชันกว่าหนึ่งหมื่นอู่ก็แยกตามไปแต่ละประเภท ซึ่งเรามีรถเรามีปัญหาเรากดเข้าไปดูมันก็จะมีอู่ที่คัดเลือกมาให้ตามในบริเวณใกล้ๆ กับเรา
ดร.นงค์นาถ : แอปนี้ในมอเตอร์โชว์ช่วยอะไรได้บ้าง
คุณพีระพงศ์ : ส่วนในมอตอร์โชว์เราจะใช้แอปในการที่เราลงทะเบียนบัตรเวลาที่เราได้บัตรเชิญไป ที่เป็นบัตรอภินันทนาการ เราต้องกรอกโค้ดในบัตรอภินันทนาการเข้าไปที่แอป ตัวแอปเองก็จะสร้างบัตรอิเล็กทรอนิกส์ให้ใบหนึ่งต่อหนึ่งโค้ดซึ่งอันนี้เราสามารถเก็บบัตร ไว้ในตัวแอปพลิเคชันนี้ เวลาเข้ามางาน เราก็กดใช้บัตรนี้ และโชว์ให้หน้าประตู สามารถเข้างานได้เลย ซึ่งก็ทำให้เราไม่ต้องเก็บบัตรของเราไว้ สมมติเราได้บัตรมาเราลงทะเบียนถึงหน้างานเราก็โชว์ให้เขาดูเข้างานได้แล้ว ก็สามารถใส่ได้หลายบัตร ถ้าเราเป็นครอบครัวก็เข้ามาลงแอปพลิเคชันก็ใส่ห้าใบหกใบได้
ดร.นงค์นาถ : งานMotor Show 2022 บัตร 100 บาท มีชิงโชคด้วย ชิงโชคอะไรบ้าง
คุณพีระพงศ์ : เรามีชิงโชคถ้าเราซื้อบัตรชิงโชค เป็นรถไฟฟ้า 2 คัน แล้วก็ รถมอเตอร์ไซค์ 4 คัน แล้วก็จะมีถ้าเกิดจองรถในงาน ก็จะมีโปรแกรมหนึ่งก็ชิงโชครถกระบะของFordถ้าใครที่เข้างานก็สามารจะชิงโชคได้ เป็นรถไฟฟ้า 2 คัน และมีรถมอเตอร์ไซค์ 2 คัน รถFordจะเป็นสำหรับที่คนจองรถในงานก็จะสามารถที่จะชิงรางวัลได้ซึ่งจริงๆ 100 บาท ถ้าเราซื้อบัตรผ่านแอปพลิเคชัน อย่างพวกK+ ของตัวกสิกรพวกนี้ ช่วงนี้ราคา แค่ 80 บาท